เจ้าฟ้าหญิงเสด็จฯ ทรงเป็นประธานเปิดการประชุมด้านสมุนไพรไทย พร้อมทั้งมีพระดำรัส ไทยได้เปรียบต่างชาติเพราะมีสมุนไพรมากมาย หากวิจัยพัฒนาและยกระดับคุณภาพสู่เวทีโลกได้ จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ด้าน วช. เร่งสร้างเขตกรรมสมุนไพรไทย พร้อมส่งเสริมการผลิตในระดับอุตสาหกรรม หวังสร้างงานให้ชุมชน ลดปัญหาว่างงาน
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จทรงเป็นองค์ประธานเปิดงาน การสัมมนาเผยแพร่ผลงานวิจัยด้านการพัฒนาสมุนไพรสู่ระดับอุตสาหกรรม ครั้งที่ 2 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เมื่อวันที่ 19 มี.ค.52 เวลา 08.30 น. และเสด็จฯ กลับในเวลาประมาณ 10.00 น.
งานประชุมครั้งนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมีวัตถุประสงค์ ที่จะผลักดันการใช้สมุนไพรไทยในระดับอุตสาหกรรมและระดับโลก
ในการนี้พระองค์ทรงมีพระดำรัสว่า สมุนไพรมีสรรพคุณมากมายหลายประการณ์ และมีผลข้างเคียงน้อยมาก ปัจจุบันตลาดอาหารเสริมสุขภาพและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร มีแนวโน้มการเติบโตอย่างมาก รวมทั้งเทคโนโลยีในการคิดค้น และการสกัดสารที่มีคุณภาพต่างๆ จากสมุนไพรมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งในอดีตผู้ที่ให้ความสนใจในเรื่องสมุนไพรคือผู้ที่มีรายได้น้อยและผู้สูงวัย แต่แนวโน้มในปัจจุบันเริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนว่าผู้ที่มีรายได้สูงและมีการศึกษาสูงหันมาให้ความสนใจในการบริโภคยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพราะได้ตระหนักถึงผลข้างเคียงจากสมุนไพรนั้นมีน้อยกว่ายาแผนปัจจุบัน
ประกอบกับประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์พืชสมุนไพรมากมาย ซึ่งได้เปรียบเหนือนานาประเทศ ดังนั้นควรมีการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรให้ทันสมัย สะดวกกับการนำไปใช้มากขึ้นแต่ปัญหาสำคัญของการพัฒนาสมุนไพรในประเทศไทยคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพให้เป็นที่ยอมรับของตลาดโลกได้ ซึ่งการวิจัยและพัฒนาการยกระดับคุณภาพของสมุนไพร และเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตข้างหน้า
นับเป็นโอกาสอันดี ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้สนับสนุนการวิจัยแบบบูรณาการเรื่องการพัฒนาด้านการผลิต การแปรรูป และการตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรของประเทศไทย สามารถจดสิทธิบัตรได้ และสามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสู่ภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมได้
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเปิดงาน ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มีความสนพระทัยในสมุนไพรไทยอย่างมาก โดยเฉพาะการวิจัยด้านสมุนไพรต้านมะเร็ง พระองค์ทรงเป็นนักเคมีที่มีพระปรีชาสามารถเป็นอย่างยิ่ง ทรงมีความเชี่ยวชาญพิเศษในด้านสูตรโครงสร้างและประสิทธิภาพของสารออกฤทธิ์ในสมุนไพร โชคดีที่ประเทศไทยเรามีเจ้าฟ้าที่เข้าใจการวิจัยวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักวิจัยไทยต่อไป
"วช. ได้เริ่มสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรไทยอย่างมียุทธศาสตร์ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบันเรามีข้อมูลการวิจัยสมุนไพรไทยที่พร้อมนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดมากมาย เราพบว่าสมุนไพรไทยหลายชนิดมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่รักษาได้หลายโรค เช่น กระเจี๊ยบแดง มังคุด มะขามป้อม พรมมิ กระชายดำ และขมิ้นชัน เป็นต้น" ศ.ดร.อานนท์ กล่าว
ทั้งนี้ ศ.ดร.อานนท์ กล่าวอีกว่าการจัดงานในครั้งนี้เป็นการนำผลสำเร็จของการวิจัยไปสู่ระดับอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรม โดย วช. เป็นหน่วยงานกลางที่จะสร้างความร่วมมือในด้านต่าง รวมทั้งเร่งสร้างเขตกรรมการปลูกสมุนไพรในจังหวัดต่างๆ ให้ได้สารออกฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและปริมาณมาก ซึ่งจะก่อให้เกิดการนำสมุนไพรมาใช้ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชากร สร้างรายได้ให้กับชุมชน ลดปัญหาการว่างงานในภาวะเศรษฐกิจถดถอย สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ และช่วยลดการนำเข้ายาบางชนิดจากต่างประเทศได้
นอกจากนี้ เลขาธิการ วช. ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์งานวิจัยสมุนไพรของไทยว่า ปัจจุบันไทยจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งเรามีความได้เปรียบที่มีความหลากหลายของสมุนไพรอยู่ภายในประเทศ หากเราพัฒนากระบวนการวิจัยและพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในอนาคตไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านสมุนไพรในเวทีโลกได้ไม่ยาก.