สมเด็จพระเทพฯ เสด็จเปิดงานประชุมวิชาการสเต็มเซลล์นานาชาติ

สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ เปิดงานการประชุมนานาชาติ ด้านการปลูกถ่ายเซลล์ใหม่ทางการแพทย์ มีพระราชดำรัสการใช้สเต็มเซลล์เป็นความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่น่าตื่นใจ จำเป็นต้องค้นคว้าวิจัยเพื่อให้เป็นวิชาการที่ดี โดยงานประชุมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 มี.ค.42 หวังเป็นเวทีให้นักวิจัยไทยและต่างชาติได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์

เมื่อเวลา 9.00 น.ของวันที่ 12 มี.ค.52 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานการประชุมระดับโลกครั้งที่ 4 เรื่องการปลูกสร้างเซลล์ใหม่ทางการแพทย์ (The 4th World Congress on Regenerative Medicine) ณ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทราแกรนด์ กรุงเทพฯ โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ ศ.ดร.ธีระ สูตะบุตร ประธานคณะกรรมการบริหารสภาวิจัยแห่งชาติ ศ.ดร.อานนท์ บุณยะรัตเวช เลขาธิการคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ รับเสด็จฯ

ทั้งนี้ รมว.วิทย์ได้ถวายรายงาน ถึงความเป็นมาของการจัดงานประชุมครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นเวทีให้นักวิชาการของไทยและต่างประเทศ ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น ประสบการณ์และความรู้ทางวิชาการว่า ด้วยการปลูกสร้างเซลล์ต้นกำเนิด (สเต็มเซลล์) ใหม่ทางการแพทย์ อันเป็นที่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะนำไปสู่การวิจัยและพัฒนาวิทยาการทางด้านนี้ ให้เจริญก้าวหน้า

สมเด็จพระเทพฯ ทรงมีพระราชดำรัสเปิดการประชุมว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความเจริญรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วในเกือบทุกสาขาวิชา ในสาขาการปลูกสร้างเซลล์ใหม่ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งความเจริญในศาสตร์ทางด้านนี้เอง ที่กลายเป็นที่จับตามองของประชาชนทั่วโลก อันเนื่องมาจากการวิจัยและค้นพบ ที่เป็นการพลิกโฉมหน้าทางการแพทย์อย่างน่าทึ่ง จนกลายเป็นความหวังใหม่สำหรับคนนับล้าน ที่กำลังประสบความเดือดร้อนทนทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่เคยเยียวยารักษาให้หายได้มาก่อน การรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการใหม่ เช่น โดยการใช้เซลล์ต้นกำเนิดไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต แต่ยังช่วยลดความทุกข์ทรมานของผู้ป่วยได้อย่างมากอีกด้วย

"คำว่า การปลูกสร้างสเต็มเซลล์ใหม่ทางการแพทย์ หมายถึง ขอบข่ายสาขาทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกสร้างเซลล์ สำหรับส่วนที่เสียหายของอวัยวะร่างกาย จึงครอบคลุมการรักษาโดยชีววิศวกรรม เซลล์ต้นกำเนิด ชีววิศวกรรมเนื้อเยื่อ เป็นต้น สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์เหล่านี้ มีผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั่วโลก”

ท่ามกลางความก้าวหน้าอันน่าตื่นใจ ที่เป็นที่ประจักษ์จวบจนปัจจุบันก็บังเกิดความใส่ใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากการปลูกสร้างเซลล์ใหม่ทางการแพทย์ ในทางที่มีวิชาการที่ดี จึงจำเป็นต้องมีการค้นคว้า วิจัย ให้ได้วิธีการที่ดีที่สุด มีความปลอดภัย และได้ผลในการรักษาได้

“ข้าพเจ้าเอง มีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า การมาถึงของยุคแห่งการปลูกสร้างเซลล์ใหม่ทางการแพทย์ การบำบัดรักษาที่ให้ผลอย่างน่าอัศจรรย์กำลังเกิดขึ้นแก่มนุษยชาติ ที่จะสามารถมีชีวิตที่เป็นสุขขึ้น ด้วยสุขภาพพลานามัยแข็งแรงและอายุมั่นขวัญยืน ซึ่งหัวเรื่องของการประชุมในครั้งนี้ได้แก่ การปลูกสร้างเซลล์ใหม่ทางการแพทย์แห่งปี 2009 (Current Regenerative Medicine 2009) ซึ่งครอบคลุมหัวข้อการประชุมอย่างหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องวัสดุชีวภาพ และเครื่องปฏิกรณ์ชีวภาพ เลล์ต้นกำเนิดและชีววิศวกรรมเนื้อเยื่อจนถึงการแพทย์ชะลอความแก่ ฉะนั้น ผู้เข้าร่วมงานจึงสามารถเข้าร่วมประชุม และแลกเปลี่ยนความคิดความต้องการอันเหมาะกับความสนใจในสาขาเฉพาะนั้นๆ”

ต่อจากนั้น สมเด็จพระเทพฯ ทรงฟังการบรรยายพิเศษจาก ศ.มัลคอล์ม อลิสัน นักวิจัยจากอังกฤษ (Centre for Diabates and Metabolic Medicine, Barts and the London School of Medicine and Dentistry, UK) ในหัวข้อ “Locating the Stem Cell Niche and Tracing Cell Lineage in Human Tissues” ซึ่งเป็นการนำเสนอเทคนิคใหม่ ที่ช่วยเปลี่ยนเนื้อเยื่อเฉพาะจุดในมนุษย์ อันเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรคร้ายที่ปัจจุบันยังไม่มีทางเยียวยา ทว่าวิธีการนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง

จากนั้น สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ เข้าสู่บริเวณนิทรรศการ ทรงตัดแถบแพรเพื่อเปิดงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาส ที่นอกจากนี้ยังมีการแสดงผลงานทางวิชาการของหน่วยงาน สถาบันที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐบาลและเอกชนทางด้านการปลูกสร้างเซลล์ใหม่ทางการแพทย์ จากนั้นจึงเสด็จฯ กลับในเวลาประมาณ 10.00 น.

สำหรับการประชุม “การปลูกสร้างเซลล์ใหม่ทางการแพทย์” หรือ WCRM เป็นการประชุมระดับนานาชาติจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในครั้งที่ 4 นี้ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่ง ศ.ดร.อานนท์ เลขาธิการ วช.กล่าวแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ว่า การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากกว่า 20 ประเทศ โดยมีเวทีนำเสนอผลการศึกษาวิจัยด้านการนำสเต็มเซลล์มาประยุกต์ใช้งานในด้านต่างๆ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้นักวิชาการในประเทศได้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักวิชาการต่างประเทศ

ทั้งนี้ ศ.ดร.อานนท์ยังกล่าวด้วยว่า เรื่องการวิจัยการปลูกสร้างเซลล์ใหม่ทางการแพทย์นั้น เป็นหัวข้อที่ได้รับการตื่นตัวมากในระดับสากล ขณะที่ภายในประเทศไทยนั้น มีการศึกษามานานกว่า 10 ปี ซึ่งงบประมาณการวิจัยที่ได้รับก็เพียงพอที่จะดำเนินการวิจัยได้ แม้ไม่มากนักก็ตาม แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้มีการทดลองนำสเต็มเซลล์ไปใช้ทดแทน กล้ามเนื้อหัวใจ หลอดลม เส้นเลือด กระดูกอ่อน ข้อเข่า เป็นต้น

อย่างไรก็ดี การวิจัยส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปด้านการศึกษาสเต็มเซลล์ผู้ใหญ่ (adult stemcell) แต่ยังมีความพยายามวิจัยเพื่อนำสเต็มเซลล์ตัวอ่อนมาใช้ แต่มีแนวโน้มที่เซลล์ดังกล่าวอาจกลายเป็นมะเร็ง อีกทั้งยังไม่ได้รับการยอมรับ

สำหรับการประชุมนานาชาติ WCRM ครั้งที่ 4 นี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 มี.ค.52 ณ ห้องบางกอกกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยมีการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้มีความรู้ทางด้านการปลูกสร้างเซลล์ใหม่จากทั่วโลก รวมถึงนักวิจัยไทยเอง และมีการแสดงนิทรรศการ โปสเตอร์ทางวิชาการอีกด้วย.