xs
xsm
sm
md
lg

เริ่ม "ปีดาราศาสตร์สากล" เตรียมสถาปนา "พนมรุ้ง-วัดสันเปาโล" จุดสำคัญทางดาราศาสตร์ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สดร. จัดพิธีเปิดพร้อมแถลงข่าวกิจกรรมพิเศษมากมายในปีดาราศาสตร์สากล ทั้งยังเตรียมสถาปนาสถานที่สำคัญทางดาราศาสตร์ในประเทศไทยด้วยหลายแห่ง อาทิ ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
สดร. เตรียมสถาปนา "พนมรุ้ง-วัดสันเปาโล" เป็นสถานที่สำคัญทางดาราศาสตร์ในไทยรับ "ปีดาราศาสตร์สากล" พร้อมร่วมฉลองให้ 400 ปีกล้องโทรทรรศน์ของกาลิเลโอด้วยกิจกรรมพิเศษมากมาย ทั้งมหกรรมสุริยุปราคา ฝนดาวตก นิทรรศการและการประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ภาพยนตร์สารคดีด้านดาราศาสตร์

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร. แถลงข่าวพร้อมจัดพิธีเปิดกิจกรรม "ปีดาราศาสตร์สากล 2009" เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 400 ปี กาลิเลโอ สร้างกล้องโทรทรรศน์ส่องดูจักรวาลเป็นครั้งแรก ซึ่งมีสื่อมวลชนให้ความสนใจร่วมงานมากมาย รวมทั้งทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์

รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการ สดร. กล่าวว่า กาลิเลโอเป็นนักดาราศาสตร์และนักคณิตศาสตร์ที่มีความสามารถมาก เมื่อ 400 ปีก่อน กาลิเลโอสามารถสร้างกล้องโทรทรรศน์ตัวแรกเพื่อส่องมองดูดวงดาว ซึ่งมีกำลังขยายเพียง 3 เท่า เท่านั้น แต่เขาเก่งมากที่มองเห็นดาวศุกร์ ดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี และดวงดาวอื่นๆ อีกหลายดวง

จากการที่กาลิเลโอส่องกล้องโทรทรรศน์เห็นดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี ซึ่งเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง แล้วนำมาคิดคำนวณ จนรู้ว่าดวงจันทร์ดังกล่าวโคจรรอบดาวพฤหัสบดี ซึ่งกาลิเลโอพยายามพิสูจน์สิ่งที่ตนเองเห็นจากกล้องโทรทรรศน์จนทำให้มนุษย์ได้รู้ว่าโลกไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลตามที่เชื่อกันมานาน แต่โลกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลและเป็นดาวบริวารของดวงอาทิตย์ จนต่อมากาลิเลโอได้รับการขนานนามว่าเป็น "บิดาแห่งดาราศาสตร์"

ดังนั้นองค์การยูเนสโกและสหพันธ์ดาราศาสตร์จึงมีมติประกาศให้ปี 2552 เป็น "ปีดาราศาสตร์สากล" ซึ่งเป็นปีครบรอบ 400 ปี หลังจากที่กาลิเลโอประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ส่องมองจักรวาลเป็นครั้งแรก โดยนานาประเทศพร้อมใจกันจัดกิจกรรมทางดาราศาสตร์มากมาย เพื่อร่วมฉลองปีดาราศาสตร์สากลตลอดทั้งปี

สำหรับประเทศไทยก็จะมีการจัดกิจกรรมพิเศษในปีพิเศษนี้ด้วยเช่นกัน โดยผู้อำนวยการ สดร. เปิดเผยว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหพันธ์ดาราศาสตร์สากล จึงได้ร่วมจัดกิจกรรมในปีดาราศาสตร์สากล ซึ่ง สดร. ได้วางแผนไว้แล้วหลากหลายกิจกรรม โดยเริ่มจากกิจกรรมชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมาเป็นกิจกรรมแรก และยังมีมหกรรมสุริยุปราคาอีกครั้งในวันที่ 22 ก.ค.,กิจกรรมชมฝนดาวตกลีโอนิดส์ วันที่ 13 พ.ย., กิจกรรมชมฝนดาวตกเจมินิดส์ วันที่ 17 ธ.ค. ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่พระจันทร์มืดเกือบเต็มดวง ทำให้สามารถสังเกตฝนดาวตกได้ชัดเจน และจำนวนมาก

นอกจากนี้ทาง สดร. ยังร่วมกับสหพันธ์ดาราศาสตร์สากลจัดโครงการ เดอะ เวิลด์ แอต ไนท์ (The World At Night: TWAN) นิทรรศการภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ที่มีโบราณสถานหรือสถานที่สำคัญของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเป็นองค์ประกอบในภาพด้วย รวมถึงการจัดประกวดภาพถ่ายทางดาราศาสตร์ฝีมือช่างภาพชาวไทย, โครงการฉายภาพยนตร์ ไอวายเอ บลาสต์ (IYA Blast) ภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับการส่งบอลลูนบรรทุกกล้องโทรทรรศน์ขึ้นไปเพื่อศึกษาเอกภพในยุคแรกเริ่ม และบริเวณที่ดาวเกิดใหม่

ยิ่งไปกว่านั้น สดร. ยังมีโครงการสถาปนาจุดสำคัญทางดาราศาสตร์ในประเทศไทย (Establishment of Astronomical Landmark in Thailand) เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับดาราศาสตร์ของคนไทย อาทิ ปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีปรากฏการณ์แสงอาทิตย์ส่องผ่าน 15 ช่องประตู ตรงกับวันที่ 3 เม.ย. ของทุกปี, วัดสันเปาโล จ.ลพบุรี หอดูดาวแห่งแรกของประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ผาชะนะได จ.อุบลราชธานี จุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นแห่งแรกในประเทศไทย และแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต จุดชมดวงอาทิตย์ตกที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่ง รศ.บุญรักษา บอกว่าในอนาคต สดร. อาจจะร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพื่อทำให้สถานที่เหล่านี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการที่สำคัญของประเทศ
รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สดร. (ซ้าย) และ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วท. เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมปีดาราศาสตร์สากล
นักเรียนและผู้สนใจร่วมในงานแถลงพิธีเปิดและแถลงข่าวกิจกรรมในปีดาราศาสตร์สากลกันมากมาย พร้อมกับร่วมกิจกรรมแรกในการชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น