ถกเถียงกันมานานเรื่องฟอสซิล "ฮอบบิต" ที่พบบนเกาะฟลอเรส อินโดนีเซีย ล่าสุดนักวิจัยสหรัฐฯ พิสูจน์เทียบกับกะโหลกมนุษย์ปัจจุบัน พร้อมยืนยันว่าเป็นมนุษย์สปีชีส์ใหม่ชัวร์ ไม่ใช่โฮโม ซาเปียนส์ แคระแน่นอน
เคียแรน แมคนัลตี (Kieran McNulty) ศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยมินเนโซตา (University of Minnesota) และทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยสโตนนี บรูค (Stony Brook University) สหรัฐอเมริกา พิสูจน์ฟอสซิลกะโหลกของมนุษย์ฮอบบิต ได้ข้อสรุปที่ยืนยันว่า เป็นมนุษย์สปีชีส์ใหม่ในสายวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตตระกูลคน โดยไซน์เดลีระบุว่า ผลงานวิจัยดังกล่าวได้ตีพิมพ์ในวารสารเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ เจอร์นัล ออฟ ฮิวแมน อีโวลูชัน (Journal of Human Evolution)
เมื่อปี 2546 นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบซากฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตในตระกูลคน ในถ้ำบนเกาะฟลอเรส (Flores) ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีสัดส่วนของร่างกายเล็กกว่ามนุษย์ปัจจุบัน และคาดว่าเป็นสปีชีส์ใหม่ จึงเรียกกันว่า "ฮอบบิต" ตามชื่อของมนุษย์อีกเผ่าพันธุ์หนึ่งในเทพนิยายเรื่องดัง และให้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “โฮโม ฟลอเรไซเอนซิส” (Homo floresiensis)
อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันนักวิชาการก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่า ฟอสซิลฮอบบิตที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อราว 18,000 ปีก่อน เป็นมนุษย์อีกสปีชีส์หนึ่งที่เพิ่งค้นพบ หรือว่าเป็นเพียงเผ่าพันธุ์ โฮโม ซาเปียนส์ (Homo sapiens) ที่มีร่างกายแคระแกร็น เพราะขาดสารอาหารกันแน่
ทีมวิจัยของแมคนัลตีใช้หลักการแบบจำลอง 3 มิติ (3D modeling methods) เปรียบเทียบลักษณะหัวกะโหลกของมนุษย์ฮอบบิต กับแบบจำลองกะโหลกของมนุษย์ยุคใหม่ว่าเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
"การค้นพบฟอสซิลฮอบบิต ถือเป็นการค้นพบที่น่าตื่นเต้นที่สุดในรอบ 50 ปี เลยก็ว่าได้ กะโหลกศีรษะของตัวอย่างที่พบ คล้ายกับอะไรบางอย่างที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อประมาณ 1 ล้านปีที่แล้ว ขณะที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็ชวนให้นึกถึงบรรพบุรุษของมนุษย์เมื่อ 3 ล้านปีก่อน ทว่าฮอบบิตเหล่านี้มีชีวิตร่วมยุคสมัยเดียวกับมนุษย์ยุคใหม่มายาวนานก่อนที่จะสูญพันธุ์ไป" แมคนัลตีอธิบาย
ผลการพิสูจน์ครั้งนี้นักวิจัยสรุปว่า กะโหลกของฮอบบิตเป็นฟอสซิลของมนุษย์สปีชีส์หนึ่งที่มีขนาดเล็ก และไม่ใช่มนุษย์ยุคใหม่ โดยโครงสร้างของฟอสซิลกะโหลกของฮอบบิตจัดเป็นของมนุษย์ที่อยู่ในสกุล โฮโม (Homo) อย่างแน่นอน แม้ว่าขนาดโครงสร้างและขนาดสมองเล็กกว่าสมาชิกอื่นๆ ที่อยู่ในสกุลเดียวกันก็ตาม ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นหลังจากได้แยกสายวิวัฒนาการออกจาก โฮโม อิเรคตัส (Homo erectus) ไปแล้ว
"ผลการศึกษาครั้งนี้เผยให้เห็นว่าพัฒนาการที่มีขนาดเล็กลงนี่แหละเป็นเหตุผลที่ช่วยอธิบายลักษณะต่างๆ ที่ปรากฏกับฟอสซิลกะโหลกที่พบบนเกาะฟลอเรสได้ และยากที่จะโต้แย้งได้ว่าแท้ที่จริงก็เป็นกะโหลกของมนุษย์ยุคใหม่ที่มีความผิดปรกติของร่างกาย" แมคนัลตีเผย
ทั้งนี้ ในขณะที่มีการถกเถียงเกี่ยวกับมนุษย์ฮอบบิตอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ปีที่ค้นพบ แมคนัลตีก็เชื่อว่า การวิเคราะห์ภาพรวมทั้งหมดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างขนาดและรูปร่างในการวิวัฒนาการของมนุษย์ เป็นหัวใจสำคัญที่ท้ายที่สุดแล้วจะทำให้เข้าใจได้ว่ามนุษย์ฮอบบิตอยู่ตำแหน่งใดของประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของมนุษย์
"ผมคิดว่านักวิชาการส่วนมากให้การยอมรับว่าฮอบบิตเป็นมนุษย์ในสปีชีส์ โฮโม ฟลอเรไซเอนซิส ซึ่งเป็นสปีชีส์ใหม่ เพราะมีหลักฐานที่หนักแน่นมาก และการศึกษาครั้งนี้ก็ช่วยยืนยันได้อีก" แมคนัลตีกล่าว.