"ยูคา" น่ะปลูกได้ แต่ในที่ไร้ไม้ใดๆ งอกได้อีกแล้ว

∞ เจอกันวันเสาร์สุขสันต์หรรษากันอีกแล้วเจ้าค่ากับ "หนูไซน์" ขาเม้าท์เจ้าประจำในวงการวิทย์ ที่เดี๋ยวนี้เรตติ้งอาจตกหล่นไปบ้างหลังจากที่ไม่ค่อยมีข่าวเม้าท์ "ทั่นรัฐมนตรี" ประจำกระทรวงย่านโยธีเล็ดลอดออกมาจากวงใน...อุ๊บ ∞

∞ ก่อนอื่นหนูไซน์ต้องขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ "ดร.วิคเตอร์ เอ แมคกูซิค" ผู้ก่อตั้งภาควิชาพันธุศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ และผู้ที่มีบทบาทสำคัญในโครงการจีโนมมนุษย์ และโครงการอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนขณะป่วยด้วยมะเร็งในวัย 86 ปี...ขอให้ท่านจงไปสู่สุคติด้วยเจ้าค่า...สาธุ ∞

∞ ผ่านเรื่องเศร้าก็เข้าเรื่องดีกันบ้างเจ้าค่ะ หนูไซน์ขอยินดีด้วยกับน้องๆ ทั้ง 8 คนที่ทำคะแนนสอบ โอ-เน็ต วิชาวิทยาศาสตร์ได้สูงที่สุด โดยมี "โอ๊ต" สุริยะกุล วงษ์ซื่อ นำลิ่วมาเป็นอันดับ 1 เลยคว้า "รางวัลสิปปนนท์" จากกองทุน ศาสตราจารย์ สิปปนนท์ เกตุทัต ไปนอนกอดเป็นกำลังใจและเป็นทุนการศึกษาในการเรียนระดับมหาวิทยาลัยต่อไปได้อีกเจ้าค่า...

...ใครอยากรู้เคล็ดลับทำคะแนนโอ-เน็ตวิทย์ได้เยี่ยมยอดสุดๆ "โอ๊ต" ก็ไม่ปกปิด บอกแค่ตั้งใจเรียน แบ่งเวลาอ่านหนังสือให้ครบถ้วน เพราะวิชา "วิทยาศาสตร์พื้นฐาน" ไม่ได้ "ยาก" อย่างที่คิด แม้แต่เด็กสายศิลป์เองก็สิทธิ์ทำคะแนนสูงๆ ได้เช่นกันเจ้าค่า...เอ้า เด็กสายศิลป์ได้ยินอย่างนี้แล้วก็อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีห้องเรียนวิทย์นะเจ้าคะ ∞

∞ ไม่ยักรู้ว่าเจ้า "หิ่งห้อย" ตัวน้อยจะมีวิธีสื่อสารภาษารักได้มากถึง 4 แบบ แต่ก็เฉพาะเจ้าหิ่งห้อยชนิดใหม่ "ลูซิโอลา อะควอติลิส" ที่ค้นพบโดย "ดร.อัญชนา ท่านเจริญ" นักกีฏวิทยาจาก มก. เท่านั้นนะเจ้าคะ จะเรียกว่าเป็นหิ่งห้อย 1 เดียวในโลกที่กะพริบแสงบอกรักได้ตั้ง 4 ท่า ก็คงไม่ผิด...

...แต่ก็น่าเป็นห่วงว่าเราท่านอาจไม่ได้เห็นหิ่งห้อยน้อยพวกนี้กันทุกคน เพราะแหล่งน้ำนิ่งและใสสะอาดอันเป็นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของหิ่งห้อยเหล่านี้เหลือน้อยลงทุกที เนื่องจาก "สังคมเมือง" ที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทู้กกกวัน...รู้อย่างนี้แล้วพวกเราต้องหันมาช่วยกันอนุรักษ์แหล่งน้ำและหิ่งห้อยไปพร้อมกัน เผื่อว่าต่อไปจะได้เห็นแสงหิ่งห้อยวิบวับยามดูละครน้ำเน่าแทนนั่งตบยุงหน้าจอทีวีไงเจ้าคะ ∞

∞ หลายคนคงไม่ทราบว่าเขามีการตรวจ "ดีเอ็นเอ" ให้อาหารกันแล้ว ไม่ใช่แค่เพียงตรวจหาคนร้ายหรือตรวจหาเชื้อโรคเหมือนที่เราคุ้นเคยกันแค่นั้นนะเจ้าคะ เหตุผลก็เพื่อหาการ "ปนเปื้อน" ของสิ่งต้องห้ามในอาหาร ทั้งเชื้อโรค สิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้อย่าง นม ถั่ว กุ้ง ปู รวมไปถึง "GMOs"

"หนูไซน์" ฟังแล้วก็ได้แต่ทำตาปริบๆ เอาแค่มาตรฐาน "อย." อาหารที่กินแต่ละมื้อจะผ่านเกณฑ์หรือเปล่าก็ไม่รู้ ยิ่งได้ยินว่า "ปลากระป๋อง" สำหรับเลี้ยงแมว พี่ยุ่นเขายังใช้ปลา "เกรดA" เสียยิ่งกว่าปลากระป๋องที่คนไทยกินเสียอีก ก็ได้แต่...เฮ้อ...อุตส่าห์ตั้งเป้าจะเป็น "ครัวโลก" แต่ยังเลี้ยงคนในประเทศให้ได้มาตรฐานไม่ได้เล้ย Y_Y ∞

∞ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนอุตส่าห์เปิดตัวมาตรฐานใหม่เอี่ยม "ฉลากประสิทธิภาพสูง" การันตีความประหยัดพลังงานให้อุปกรณ์ที่ไม่ใช้ไฟฟ้า โดยเชิญ "อ.จตุพล ชมพูนิช" มาทอล์คโชว์ในหัวข้อเดียวกับฉลาก แต่สงสัยเจ้าหน้าที่เขาจะเข้าใจเรื่องฉลากอย่างท่องแท้แล้ว เมื่อถึงเวลาที่อาจารย์นักพูดชื่อดังต้องขึ้นทอล์ค จึงเห็นผู้คนนั่งกัน "หลอมแหลม" ∞

∞ ในงานสัมมนาเรื่องการจัดการพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืนที่จัดโดย "สผ." จัดที่ รร.เอเชีย เมื่อวันก่อน มี "อ.ดำรงค์ ศรีพระราม" คณบดี คณะวนศาสตร์ มก. ไปร่วมแจมบนเวทีอภิปราย เลยกลายเป็นเป้าให้ผู้ฟังที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ยิงคำถามเรื่อง "ไม้ยูคา" ใส่เป็นชุด เช่น "คิดเห็นอย่างไรกับการปลูกยูคาบนคันนา เพราะเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้สนับสนุนกันเหลือเกิน"...ในเชิงวิชาการ "การปลูกยูคาดีหรือไม่ อย่างไร"..."ปลูกยูคาแล้วทำให้ดินเสียจริงหรือเปล่า" เป็นต้น

แม้จะเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พูดกันบนเวทีเลยสักนิด แต่ท่านคณะบดีก็ตอบให้หายข้องใจ (บ้าง) ว่า "ยูคามีระบบรากที่สามารถดูดน้ำได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดูดตลอดเวลา เพราะว่าไม่รู้จะเอาไปกักเก็บที่ไหนได้ทั้งหมด และก็ไม่ได้คายน้ำออกไปรวดเร็วทันใดเสียด้วย"

"ไม่เห็นด้วยหากจะปลูกยูคาในป่าอนุรักษ์ แต่หากจะปลูกในพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ ยูคาก็เป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับพื้นที่ที่ไม่สามารถอย่างอื่นได้อีกหรือไม่สามารถปลูกพืชผักที่มีมูลค่ามากกว่ายูคาได้"

ท่านคณะบดียังบอกอีกด้วยเจ้าค่ะว่า ยูคาไม่ได้ทำลายดิน แต่เรียกความอุดมสมบูรณ์ของดินกลับคืนมา อย่างกรณีดินลูกรังที่ไม่มีพืชใดๆ งอกงามขึ้นได้ ถ้าปลูกยูคาลงไปก็จะช่วยดูดน้ำจากที่อื่นมาได้ และช่วยดูดซับ CO2 ได้ด้วย...คำตอบแบบนี้ถูกอกหรือว่าไม่ถูกใจใครกันบ้างรึเปล่าเจ้าคะ ∞

∞ ใครที่ยังไม่ได้ส่งความเห็นอิงข้อเท็จจริงว่า "โอโซนให้ประโยชน์อะไรแก่โลกบ้าง" มาที่ scigossip@gmail.com เพื่อร่วมลุ้นหนังสือการ์ตูน "ออซซีโอโซน" แสนสนุกไปนอนอ่านคลายร้อนก็ให้รีบด่วนนะเจ้าคะ เพราะจะหมดเขตร่วมสนุก 31 ก.ค. นี้แล้วจ้า ส่วนใครจะเป็นผู้โชคดีก็รอลุ้นผลได้ในวันที่ 2 ส.ค. เจ้าค่า ∞

∞ อ้อ! แต่ระหว่างรอประกาศรายชื่อว่าที่เจ้าของหนังสือออซซีโอโซน หนูไซน์มีข่าวจาก สดร. มากระซิบกันอีกสักนิดเจ้าค่า วันที่ 1 ส.ค. นี้ จะมีปรากฏการณ์ "สุริยุปราคาบางส่วน" ให้ชมกันได้ในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่เวลา 18.02 น. และสิ้นสุดเวลา 19.33 น. เจ้าค่า แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าประเทศไทยตั้งแต่เวลา 18.46 น. แต่ก็ยังพอมีเวลาให้ได้ชมปรากฏการณ์นี้ได้นานถึง 44 นาทีเชียวเจ้าค่า

อ๊ะอ๊ะ หากใครจะยลสุริยุปราคาก็อย่าลืมว่าไม่ควรมองดูด้วยตาเปล่าโดยตรงนะเจ้าคะ สดร.เขาแนะนำมาว่าต้องใช้แผ่นกรองแสงสำหรับดูดวงอาทิตย์ หรือแผ่นกรองแสงสำหรับช่างเชื่อมโลหะ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของดวงตาทุกคู่ที่เฝ้ามองดูอยู่จากพื้นโลกอย่างไรล่ะเจ้าคะ ∞

∞ เอ้า! หนูๆ วัยทีน ถึงเวลาเรียนรู้การบริหารจัดน้ำแบบออนไลน์กันแล้ว ก็ผู้ใหญ่ๆ เขาอุตส่าห์เปิดตัวเว็บไซต์ "รักน้ำดอทคอม" (www.raknam.com) ขึ้นมาเจาะกลุ่มขาสั้น-คอซองกว่า 33,000 โรงเรียนทั่วโลกเลยทีเดียว เข้าไปคลิกๆ กันหน่อยจ้า ∞

∞ สัปดาห์นี้หนูไซน์คงต้องบ๋ายบายไปก่อน แล้วพบกันใหม่เสาร์หน้าเช่นเคยนะเจ้าคะ ระหว่างนั้นใครคันปากอยากร่วมเม้าท์ก็ส่งเรื่องราวมันๆ มาหากันได้ที่ scigossip@gmail.com เช่นเคยเจ้าค่า ∞