ชวนวัยทีนเรียนรู้บริหารจัดการน้ำออนไลน์กับ "รักน้ำดอทคอม"

โคคา-โคลา จับมือพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเปิดตัวเว็บไซต์ "รักน้ำดอทคอม" ให้ข้อมูลน้ำแบบออนไลน์ เน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่นและนักเรียนทั่วประเทศ 33,000 โรงเรียน เบื้องต้นมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 4 แห่ง

มูลนิธิโคคา-โคลา ประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สนนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะกรรมการพิเศษเพ่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และบริษัทซีเอส ล็อกอินโฟ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวเว็บไซต์ "รักน้ำดอทคอม" (www.raknam.com) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 22 ก.ค.51 ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่น

ในฐานะผู้ควบคุมการผลิตเว็บไซต์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ (Andrew Biggs) จากแอนดรูว์ บิ๊กส์ อะคาเดมี (Andrew Biggs Academy) ได้อธิบายรายละเอียดของเว็บไซต์ระหว่างงานแถลงข่าว ซึ่งผู้จัดการวิทยาศาสตร์ได้เข้าร่วมด้วยว่า ภายในเว็บไซต์จะกระตุ้นให้วัยรุ่น ซึ่งเติบโตขึ้นมาพร้อมคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ได้สนใจเกี่ยวกับน้ำ

ทั้งนี้ การได้ร่วมโครงการเป็นเวลาปีกว่า ทำให้เขาเองได้รู้จักเรื่องน้ำมากมาย บางเรื่องก็ไม่เคยทราบมาก่อน เช่น กว่า 75% ของสมองคือน้ำ เป็นต้น และภายในเว็บไซต์ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับโครงการในพระราชดำริ รวมถึงคำคมเตือนใจเกี่ยวกับเรื่องน้ำทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

"ซ้ายสุดของเว็บไซต์ เป็นปฏิทินกิจกรรมที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน ตรงกลางเป็นความคืบหน้าของโครงการ ส่วนขวาสุดเป็นโครงการน้ำดี ที่จะเชิญชวนโรงเรียนเสนอโครงการเกี่ยวกับการรักษาน้ำ และเว็บไซต์นี้ยังสามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ด้วย" บิ๊กส์กล่าว

เขายังแจกแจงอีกว่า ในเว็บไซต์ยังมีเกมส์ให้เล่นเพื่อชิงสายรัดข้อมือ "รักษ์น้ำ" รวมถึงคลิปวีดีโอความยาว 15 นาที ที่จะนำเสนอเกี่ยวกับข่าวล่าสุดเกี่ยวกับน้ำและการทดลองเกี่ยวกับน้ำด้วย โดยในส่วนของวิดีโอนี้จะอัพเดททุกเดือน สำหรับตอนนี้ก็มี 3-4 ตอนแล้ว

ระหว่างแนะนำเว็บไซต์ที่เขาควบคุมการผลิต บิ๊กส์ได้สอบถามความเห็นเยาวชนที่มาร่วมแถลงข่าวและได้ทดลองใช้งานเว็บไซต์ ซึ่งบางความเห็นก็ว่า ชอบเคล็ดลับเกี่ยวกับประหยัดน้ำ บ้างก็ว่าชอบบทเรียนเกี่ยวกับน้ำและคำศัพท์เรื่องน้ำ บางความเห็นก็ชอบที่ได้รู้จักคำศัพท์ที่ไม่เคยรู้จัก เป็นต้น

ทางด้าน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ซึ่งร่วมงานแถลงข่าวในฐานะประธานกรรมการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ซึ่งเป็นสถาบันที่มีส่วนสนับสนุนข้อมูลน้ำให้แก่เว็บไซต์กล่าวว่า เรื่องความสำคัญของน้ำนั้น ทุกคนทราบกันดี เรามีชีวิตอยู่ได้ด้วยน้ำ

ดร.สุเมธกล่าวอีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ตรัสว่า "น้ำคือชีวิต" น้ำช่วยผลิตอาหารได้ด้วยจากการใช้ทางการเกษตร และน้ำยังช่วยผลิตพลังงาน ผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นการผลิตไฟฟ้าที่สะอาดที่สุดเพราะไม่ต้องเผาอะไร พร้อมอัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกว่า "ดินไม่ดีอย่างไรฉันไม่กลัว ขอให้มีน้ำ"

"ในบ้านเราก็มีปัญหาเรื่องน้ำ น้ำท่วม น้ำแล้ง จากปัญหาพวกนี้ก็อยากชักจูงให้รู้จักการบริหารจัดการน้ำ น้ำก็เหมือนเงินทอง จับจ่ายใช้สอยไม่เก็บไว้ก็ไม่มีใช้" ดร.สุเมธกล่าว และระบุว่าจากพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไทยมีจึงระบบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องน้ำ ซึ่งมีความพร้อมตั้งแต่ 2549 แต่ข้อมูลดังกล่าวจะเก็บไว้แค่หน่วยงานของไม่ได้แล้ว ต้อกระจายออกไป โดยเฉพาะเยาวชนที่จะเติบโตโดยไม่รู้จักน้ำไม่ได้แล้ว

ส่วน ศ.นพ.วงศ์กุลพัทธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ประธานบริษัทซีเอส ล็อกอินโฟ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือต่อการผลิตเว็บไซต์นี้ว่า ซีเอส ล็อกอินโฟให้การสนับสนุนในส่วนของอินเทอร์เน็ต เป็นศูนย์ข้อมูล ดูแลระบบ และเผยแพร่ข้อมูลให้แก่โรงเรียนที่อยู่ห่างไกล อีกทั้งยังมีส่วนร่วมพัฒนาเว็บไซต์ซึ่งเป็นแหล่งความรู้ในการบริหารจัดการน้ำ โดยเน้นเยาวชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้เผยแพร่ความรู้ให้แก่สังคมรอบตัวด้วย

ขณะที่ นายวินัย รอดจ่าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่าเว็บไซต์นี้เป็นตัวอย่างของการศึกษาในระบบที่ควบคู่ไปกับการศึกษาตามอัธยาศัย ทั้งนี้จะได้ประชาสัมพันธ์ให้แก่โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ 33,000 โรงเรียน ได้รู้จักและใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์รักน้ำดอทคอมนี้

ทั้งนี้จากการเยี่ยมชมเว็บไซต์รักน้ำดอทคอมของผู้จัดการวิทยาศาสตร์พบว่า มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการของเว็บไซต์แล้วทั้งหมด 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนวัดนาวง จ.ปทุมธานี โรงเรียนวังวิเศษ จ.ตรัง โรงเรียนสีดาวิทยา จ.นครราชสีมา และโรงเรียนบ้านฟ่อนวิทยา จ.ลำปาง ส่วนปฏิทินกิจกรรมยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ.