ไทยเป็นเจ้าภาพภูมิภาค ถกแผนปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมศึกษาอาเซียน ระยะ 5 ปี ปลัดสิ่งแวดล้อมฯ เผย 10 ชาติอาเซียนขานรับ ปรับหลักสูตรการศึกษา พร้อมตั้งโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษาในประเทศ หมายปลูกจิตสำนึกเยาวชนในด้านสิ่งแวดล้อม ชี้ของไทยมีความพร้อมแล้ว และจะได้แผนปฏิบัติงานที่ชัดเจนก่อนสิงหาฯ นี้ ปลื้มอาเซียนบวกสามชมไทย เป็นแบบอย่างที่ดีด้านสิ่งแวดล้อมของภูมิภาค
ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) แถลงข่าวสรุปผลการประชุมเชิงปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมศึกษาอาเซียน พ.ศ.2551-2555 ระหว่างวันที่ 13-21 ก.ค.51 ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 19 ก.ค.51 ว่า การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้ 10 ชาติอาเซียน ได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมศึกษาของภูมิภาคขึ้น หลังจากการประชุมเมื่อกันยายนปีที่ผ่านมา รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนต่างแสดงความเห็นชอบแล้ว โดยการประชุมนี้ยังมีผู้แทนญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้เข้าร่วมประชุมในความสัมพันธ์แบบ "อาเซียนบวกสาม" ด้วย
สำหรับผลการประชุมตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 15-17 ก.ค.51 โดยมีผู้แทน 13 ชาติร่วมประชุมราว 50 คน ได้ข้อสรุปเป็นแผนปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมศึกษาอาเซียน 5 แนวทาง คือ 1.การจัดตั้งโรงเรียนสิ่งแวดล้อมศึกษา (Eco - School) ขึ้น โดยเร่งปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอน ในชาติสมาชิกให้บรรจุเรื่องสิ่งแวดล้อมศึกษา เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการศึกษาของชาติ 2.การจัดอบรมเด็กและเยาวชนในชาติสมาชิกให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและการบริโภคที่ยั่งยืน
3.การจัดอบรมผู้นำในวงการศึกษาและภาคประชาชน เพื่อทำให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การฝึกอบรมครูและผู้นำชุมชน 4.การสร้างฐานข้อมูลสิ่งแวดล้อมศึกษาของชาติสมาชิกอาเซียน และ 5.การจัดเทศกาลภาพยนตร์สิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นสื่อกลางในการกระจายข่าวสารด้านสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชน โดยไทยจะริเริ่มจัดกิจกรรมประกวดภาพยนตร์สิ่งแวดล้อม ของเยาวชนขึ้นเป็นชาติแรก เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ประเทศสมาชิก
"ไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุม จะนำเสนอผลการประชุมไปยังที่ประชุมระดับสูงด้านสิ่งแวดล้อมในวันที่ 3-6 สิงหาคม 51 นี้ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งแต่ละชาติจะต้องนำแนวทางทั้ง 5 ไปจัดทำแผนปฏิบัติการของตนเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ซึ่งตอนนี้กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมของไทย ค่อนข้างพร้อมแล้ว และเรายังจะนำผลการประชุมนี้ ไปเสนอต่อเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ได้พิจารณาในช่วงปลายปีด้วย" ปลัด ทส.กล่าว
นอกจากนั้น ดร.ศักดิ์สิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ผู้แทนนานาชาติยังแสดงความชื่นชมไทยมาก เนื่องจากเห็นว่าไทยเป็นแบบอย่างที่ดี ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของภูมิภาค เช่น การส่งเสริมผู้ประกอบการให้รู้จักการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ทั้งนี้ การประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยปฏิบัติการสิ่งแวดล้อมศึกษาอาเซียน จัดโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมร่วมกับมูลนิธิอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักเลขาธิการอาเซียน ธนาคารพัฒนาเอเชีย มหาวิทยาลัยริกกิว ประเทศญี่ปุ่น และมูลนิธิฮานส์ เซเดล โดยในการประชุมยังมีการฝึกอบรม ผู้นำอาเซียนด้านการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน และการประชุมสิ่งแวดล้อมของเยาวชนชาติสมาชิกอาเซียนบวกสามจำนวน 46 คนด้วย
"ผลการประชุมดังกล่าว เยาวชนอาเซียนบวกสาม จะทำเป็นรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของอาเซียนเพื่อเสนอต่อที่ประชุม โดยเสนอแล้ว 3 หัวข้อหลักคือ ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ปัญหาการขยายตัวของเมือง และปัญหาพลังงานโดยเน้นที่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการสะท้อนว่ารัฐบาลต่างๆ ควรส่งเสริมให้เยาวชนเข้ามีส่วนร่วมในด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกด้วย" ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ปิดท้าย.