xs
xsm
sm
md
lg

ดูน้องแข่งคุมเครื่องปฏิกรณ์บังคับรถไฟฟ้าใน "อะตอมจูเนียร์แคมป์"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เยาวชนแข่งควบคุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในค่าย อะตอมจูเนียร์แคมป์
เยาวชนจากมหิดลวิทยานุสรณ์คว้าแชมป์คุม "เครื่องปฏิกรณ์" บังคับรถไฟฟ้าใน "อะตอมจูเนียร์แคมป์" พร้อมซิวรางวัลพิเศษ ติดตามคณะจาก ปส. เยี่ยมชมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ณ ประเทศเกาหลี ประมาณเดือน ต.ค.นี้

หลังจากเข้าค่ายอบรมและผ่านการแข่งขันมาหลายรอบ ในที่สุดนายโกเมศ กิมวัฒนานุกุล นายจิตรภณ จิรกุลสมโชค และนายณพสิทธิ์ พิพิธพัฒนาปราปต์ เยาวชนทีม "ลามิตี" (Lamitie) จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม ก็คว้ารางวัลชนะเลิศในการแข่งขันคุมเครื่องปฏิกรณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำลอง ซึ่งเป็นกิจกรรมในค่าย "อะตอมจูเนียร์แคมป์" (Atom Junior Camp) ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ที่ตัดสินผลรางวัลไปเมื่อ 15 ก.ค.51

โจทย์กำหนดเวลา 10 นาทีให้ 2 ทีมแข่งขันควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำลอง ผ่านอุปกรณ์บังคับที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้รถไฟฟ้าเคลื่อนที่ไปตามเส้นทางที่กำหนด โดยได้รับคะแนนตามภารกิจที่กำหนด

ทั้งนี้แบ่งเป็น 3 ภารกิจ คือ บังคับให้รถไฟฟ้าจอดที่ชานชาลาเพื่อเก็บคะแนน โดยแต่ละชานชาลามีคะแนนไม่เท่ากัน บางแห่ง 3 คะแนน บางแห่ง 5 คะแนน เมื่อกำหนดให้รถไฟฟ้าจอดตามชานชาลาต่างๆ ได้แล้ว ก็มีโจทย์กำหนดให้แต่ละทีมควบคุมการจ่ายกำลังไฟฟ้าให้รถไฟฟ้าที่กรรมการสุ่มกำหนดภายใน 20 วินาที

จากนั้นแต่ละทีมก็ควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าที่ 1,000 วัตต์ ซึ่งเป็นภารกิจที่ค่อนข้างยาก เพราะหากจ่ายกระแสไฟฟ้าเกิน 1,000 วัตต์ถือว่าฟาล์ว และเครื่องปฏิกรณ์จำลอง จะหยุดจ่ายกระแสไฟฟ้าทันที พร้อมกับทีมถูกตัด 10 คะแนน

จากนั้น ภารกิจสุดท้ายคือควบคุมให้รถไฟจอดตามชานชาลาแต่มีเงื่อนไขว่าแท่งควบคุมบางตัวไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งเป็นภารกิจที่ยากอีกเช่นกันเนื่องจากเสี่ยงที่แต่ละทีมจะจ่ายกระแสไฟฟ้าเกิน

ทีมลามิตีขับเคี่ยวกับทีม "บลูสกาย" (Blue Sky) จากโรงเรียนปทุมคงคาในรอบชิงชนะเลิศ โดยลามิตีสามารถกำหนดการเคลื่อนที่ของรถไฟฟ้าได้แม่นยำกว่า และเก็บคะแนนไปได้มากกว่า รวมทั้งจ่ายกระแสไฟฟ้าเกินไปเพียงครั้งเดียวจึงคว้ารางวัลชนะเลิศเป็นเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมรางวัลพิเศษ ที่จะได้ร่วมเดินทางไปดูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของจริงที่ประเทศเกาหลี

ขณะที่บลูสกายพลาดการเก็บคะแนนจากชานชาลาอยู่หลายครั้งและทำพลาดในการจ่ายไฟฟ้ามากกว่าจึงได้รางวัลรองชนะเลิศ

จิตรภณพร้อมด้วยสมาชิกทีม เปิดเผยกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ซึ่งได้สังเกตการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ว่า หลังจากได้เข้าค่ายอบรมทฤษฎีเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ในเตาปฏิกรณ์ รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แล้ว เยาวชนที่เข้าค่ายอะตอมแคมป์จะต้องประดิษฐ์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้รถไฟฟ้าผ่านแบบจำลองทางคอมพิวเตอร์หรือซิมูเลเตอร์ (Simulator)

"อุปกรณ์ที่ทำก็ใช้วงจรง่ายๆ โดยต่อวงจรแบบอนุกรมและขนานธรรมดาๆ เราเองก็พอจะมีพื้นอยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงทฤษฎี ครั้งนี้เราได้ลงมือทำของจริง โดยกรรมการจะให้โจทย์ 10 ข้อที่คล้ายๆ กับการแข่งขันนี้ไปฝึกกับอุปกรณ์ที่เราประดิษฐ์ขึ้นก่อนแข่งรอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 3-4 ก.ค.ที่ผ่านมา" จิตรภณและเพื่อนร่วมทีมกล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์

ทีมผู้ชนะอธิบายกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์อีกว่า แท่งควบคุมในเครื่องปฏิกรณ์แต่ละแท่งนั้นจะมีผลต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้าไม่เท่ากัน และระหว่างการแข่งขันก็แบ่งกันทำหน้าที่ โกเมศซึ่งมือนิ่งที่สุดได้รับหน้าที่ให้บังคับอุปกรณ์ควบคุมการจ่ายไฟ จิตรภณช่วยดูแลปุ่มที่มีความสำคัญเล็กๆ น้อยๆ ในการจ่ายไฟ
 
ณพสิทธิ์ซึ่งมีสายตาไวที่สุดในทีม และมีพลังในการออกคำสั่งกับเพื่อนๆ มากที่สุดได้รับหน้าที่ดูการเคลื่อนที่ของรถไฟฟ้า คอยกำหนดว่าควรจะออกตัวหรือจอดรถไฟฟ้าเมื่อไหร่ ส่วนหน้าที่ออกแบบอุปกรณ์ควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้านั้นโกเมศมีบทบาทมากที่สุดเนื่องจากมีความเชี่ยวชาญทางด้านอิเล็กทรอนิกส์มากกว่าเพื่อนๆ

"ได้อะไรจากการรวมกิจกรรมนี้ อย่างน้อยได้ทราบว่ามีสาขานิวเคลียร์อยู่ ก่อนหน้านี้ไม่สนใจเนื่องจากเราไม่มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ได้รู้ว่าการควบคุมเตาปฏิกรณ์เป็นอย่างไร แต่ของจริงสบายกว่านี้เพราะเขาใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมไม่ได้ใช้คนเหมือนในการแข่งขันนี้ คิดว่าเขาคงอยากให้เข้าใจว่ามีอะไรบ้างที่มีผลให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์มากกว่า" จิตรภณกล่าวถึงสิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมของ ปส.

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการแข่งขันควบคุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จำลองนี้ได้แก่ทีม "ทริปเปิล เค เซฟ ดิ เอิร์ธ" (Triple K Save the Earth) โรงเรียนราชีบน ซึ่งแข่งขันกับทีม "สกอยด์" (Sagoid) จากโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ โดยแต่ละทีมประกอบด้วยสมาชิก 3 คน

ทั้งนี้ค่ายอะตอมจูเนียร์แคมป์ของ ปส. คัดเลือกเยาวชนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมด 47 ทีมๆ ละไม่เกิน 3 คน และได้คัดเลือกเหลือ 32 ทีมเพื่อเข้าค่ายรับการอบรมเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพิจารณาจากเรียงความเกี่ยวกับการลดภาวะโลกร้อน และมีการแข่งขันเพื่อคัด 8 ทีมสุดท้ายเข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเมื่อ 3-4 ก.ค.ที่ผ่านมา

ส่วนรางวัลพิเศษที่เยาวชนทีมชนะเลิศจะได้เดินทางไปดูงานเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ประเทศเกาหลีใต้นั้น นายวรวุฒิ ศรีรัตน์ชัชวาลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เผยกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า เป็นแนวคิดของนายเชาว์ รอดทองคำ เลขาสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ที่ประกาศให้รางวัลพิเศษในการแข่งขันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
 
"ทั้งนี้ ปส.มีงบประมาณสำหรับดูงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และฝรั่งเศสอยู่แล้ว จึงนำงบประมาณมาให้โอกาสแก่เยาวชนที่ชนะเลิศด้วย คร่าวๆ คาดว่าจะได้เดินทางในช่วงเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นช่วงปิดภาคเรียนของเยาวชน" นายวรวุฒิกล่าว.
รางและรถไฟฟ้าจำลองที่ได้รับกระแสไฟฟ้าจากการควบคุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จำลอง




ชมภาพการแข่งขันของเยาวชนในค่ายอะตอมจูเนียร์
บางช่วงของรอบชิงชนะเลิศระหว่างทีม "ลามิตี" จากมหิดลวิทยานุสรณ์ กับ "บลูสกาย" จากปทุมคงคา
(บันทึกโดย ทีมงานผู้จัดการวิทยาศาสตร์)



จอแสดงการเคลื่อนที่ของรถไฟฟ้าที่สัมพันธ์กับการจ่ายกระแสผ่านการควบคุมเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จองลองโดยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่แต่ละทีมประดิษฐ์ขึ้น
ทีมแชมป์ ลามิตี (ซ้ายไปขวา) จิตรภณ โกเมศและณพสิทธิ์
ทีม บลูสกาย รองแชมป์จากปทุมคงคา
ทีมหญิงแกร่งที่ผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ทริปเปิล เค เซฟ ดิ เอิร์ธ จากโรงเรียนราชินีบน และคว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน
กองเชียร์ซึ่งเป็นสีสันระหว่างแข่งขัน
แชมป์รับรางวัลจากนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กำลังโหลดความคิดเห็น