เรือเรนโบว์วอริเออร์เทียบท่าไทย รณรงค์ยุติใช้ถ่านหิน

กรีนพีซ - นักรบสายรุ้งกางใบเรือถึงสงขลา ใช้เวลาในไทย 21 วัน ล่องเลาะอ่าวไทย ถึงกรุงเทพฯ รณรงค์หยุดถ่านหิน ด้านกรีนพีซชี้ ”พลังงานหมุนเวียน” คือหนทางสู่การปฏิวัติพลังงานของไทย

เรือนักรบสายรุ้ง (Rainbow Warrior) ซึ่งเป็นเรือธงของกรีนพีซได้กางใบมาถึงจังหวัดสงขลาในวันนี้เพื่อเรียกร้องรัฐบาลไทยและภาคพลังงานให้คำมั่นในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดเพื่อกู้วิกฤตโลกร้อนและเน้นประเด็นความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ

เรือใบอันเป็นสัญลักษณ์การรณรงค์อยู่ในระหว่างการเดินทาง 21 วัน ในประเทศไทยเพื่อชูประเด็น “หยุดถ่านหิน ก้าวสู่การปฏิวัติพลังงาน” โดยมีวัตถุประสงค์ในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านพลังงานลดการพึ่งพาถ่านหินและก๊าซ และกระตุ้นการลงทุนด้านประสิทธิภาพพลังงานและนำเอาพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดจากลมแสงแดดและชีวมวลสมัยใหม่มาใช้

นายธารา บัวคำศรี ผู้ประสานงานฝ่ายรณรงค์ประจำประเทศไทย กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่า สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือการเปลี่ยนจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ทำลายสภาพภูมิอากาศ และใช้ประโยชน์จากศักยภาพพลังงานหมุนเวียนในประเทศ ให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา ราคาถ่านหินพุ่งตัวสูงขึ้นถึง 66 เหรียญสหรัฐถึง 172 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งตัน ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยควรก้าวสู่การปฏิวัติพลังงาน โดยการกระตุ้นใหัเกิดการลงทุน เพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานจากแสงแดดและลม เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ให้กับประชาชน ซึ่งเป็นทางออกที่แท้จริง ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งสร้างแรงจูงใจและการสนับสนุนให้มากขึ้น ตลาดพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดก็จะเป็นไปตามแนวโน้มโลกในด้านอัตราการเติบโตของการติดตั้งระบบ

นอกจากนี้ กฎหมายเน็ทมิเตอร์ หรือระเบียบการรับซื้อไฟฟ้า จากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กมาก (VSPP) ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชน สามารถผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม หรือแหล่งพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ และเหลือขายเข้าระบบสายส่งเป็นรายได้ แนวทางนี้จะช่วยแก้ปัญหาความยากจน และการว่างงานของคนไทย ให้มีรายได้จากการผลิตพลังงานหมุนเวียน

“การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน แต่ยังเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ในการพัฒนาทรัพยากรพลังงานของประเทศ คนไทยจะต้องมีแหล่งพลังงานที่ช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม และทำให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” นายไมค์ ฟิกเคน กัปตันเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์กล่าว โดยระบุอีกว่า การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน ยังสามารถทำให้โลกเลิกเสพติดกับการใช้ถ่านหิน

ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่สกปรกที่สุด ในบรรดาเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหลาย ถ่านหินปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สูงกว่าน้ำมันถึง 29% ต่อหนึ่งหน่วยคาร์บอน และมากกว่าแก๊สถึง 80% นอกจากนี้ถ่านหินยังปล่อยสารพิษอย่างเช่น ทองแดงและอาร์เซนิก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ ชุมชน และการพัฒนาเศรษฐกิจ

หลังจากการรณรงค์ “หยุดถ่านหิน ก้าวสู่การปฏิวัติพลังงาน” ที่สงขลา เรือเรนโบว์วอร์ริเออร์จะเดินทางไปยังอำเภอทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพฯ เพื่อมุ่งผลักดันให้รัฐบาลลงมือแก้ไขวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ กรีนพีซทำงานรณรงค์ด้วยหลักการเผชิญหน้าอย่างสันติวิธีนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และพฤติกรรม เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และสันติภาพ ติดตามการเดินทางของเรือเรนโบว์วอร์ริเออร์ได้ที่ www.greenpeace.or.th/quitcoal

ทั้งนี้ ระหว่างการต้อนรับเรือนักรบสายรุ้งที่มาจอดเทียบท่า ณ จังหวัดสงขลา ในวันที่ 5 ก.ค.51 นั้น ทางกรีนพีซได้จัดกิจกรรม ปั่นจักรยานทางไกล โดยเริ่มจากห้างไดอาน่า อ.หาดใหญ่ เพื่อปั่นไปยัง อ.เมือง สงขลา โดยที่บริเวณจอดเรือมีกิจกรรมเกมและนิทรรศการเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะโลกร้อน และหันสู่การใช้พลังงานสะอาด พร้อทั้งเปิดเรือให้สาธารณชนเข้าชมฟรี และร่วมลงชื่อสนับสนุนกฎหมายการใช้พลังงานหมุนเวียน.

(เรื่องและภาพจากกรีนพีซ)