กรีนพีซส่งข้อความ "อาเซียน ก้าวสู่การปฏิวัติพลังงาน" ถึงผู้นำอาเซียน พร้อมยื่นหนังสือเรียกร้องให้ผู้นำอาเซียนยุติการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้านิวเลียร์แห่งใหม่ แต่ให้หันมาพัฒนาศักยภาพพลังงานหมุนเวียนให้เต็มที่
เมื่อช่วงสายของวันที่ 7 ส.ค. 2551 อาสาสมัครกรีนพีซได้จัดกิจกรรมส่งข้อความ "อาเซียน ก้าวสู่การปฏิวัติพลังงาน" พร้อมยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และเดินหน้าพัฒนาพลังงานหมุนเวียนให้ได้ร้อยละ 40 ภายในปี 2593 ถึงที่ประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน ครั้งที่ 26 ที่บริเวณลานด้านหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ซึ่งมีสื่อมวลชนรวมทั้งผู้จัดการวิทยาศาสตร์ร่วมสังเกตการณ์
นายธารา บัวคำศรี ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ประจำประเทศไทย กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า กรีนพีซได้ติดตามการประชุมรัฐมนตรีพลังงานมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในปีที่แล้วจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งก็มีนิมิตรหมายอันดีที่มีการหยิบยกเอาประเด็นปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาพูดถึงกัน และในปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งทางกรีนพีซเห็นว่ามีประเด็นแอบแฝงอยู่ด้วยในเรื่องของพลังงานนิวเคลียร์
"ประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเป็นสมาชิกของอาเซียนพลัสทรี (+3) พยายามผลักดันให้ประเทศในภูมิภาคอาเซียนพัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์ และส่งเสริมให้มีการจัดซื้อจัดจ้างเทคโนโลยีจากเกาหลีใต้ ซึ่งมีทั้งไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ที่มีแนวทางจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในอนาคต" นายธารา กล่าว
ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ของกรีนพีซยังกล่าวอีกว่า อยากให้อาเซียนแสดงความเป็นผู้นำในการแก้ปัญหาวิกฤติพลังงานในทิศทางที่ถูกต้องและเหมาะสม ได้แก่ การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน และเพิ่มประสิทธิภาพของภาคอุตสาหกรรมในการใช้พลังงาน ซึ่งเดิมทีอาเซียนตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ร้อยละ 10 ภายในปี 2553 แต่จนบัดนี้เหลืออีกเพียง 2 ปีเท่านั้น ยังทำไม่ได้มากเท่าที่ควร
"อาเซียนยังเป็นพื้นที่ล่อแหลมที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างเช่นกรณีพายุนาร์กีสในประเทศพม่าที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆ นี้ ดังนั้นจำเป็นที่อาเซียนจะต้องเป็นผู้นำลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย โดยที่ยังสามารถพัฒนาเศรษฐกิจต่อไปได้ ซึ่งอาเซียนมีศักยภาพในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนได้ถึงร้อยละ 40 ในปี 2593 แต่ทั้งนี้จะผลักดันได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้นำประเทศ" นายธารา กล่าว
"กรีนพีซจึงได้เรียกร้องให้ผู้นำอาเซียนยุติการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ เลิกสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในภูมิภาค แต่ให้มุ่งขยายศักยภาพของพลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มที่ ซึ่งการตัดสินใจในวันนี้ มีผลต่อเนื่องไปอีก 20-30 ปีข้างหน้า หากไม่เร่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียนอย่างจริงจัง อาเซียนก็จะยังติดอยู่ในบ่วงของพลังงานสกปรก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วผู้ได้รับผลก็คือประชาชนในภูมิภาคนั่นเอง" นายธารา กล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะมีการยื่นหนังสือถึงที่ประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียน โดยมี น.ส.มัณฑนา ฟูกุล รักษาการผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ กระทรวงพลังงาน เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
คลิกที่ไอคอน Manager Multimedia เพื่อรับชมภาพ กรีนพีซส่งข้อความ "อาเซียน ก้าวสู่การปฏิวัติพลังงาน" ถึงรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนเพิ่มเติม