รมว.วิทย์ ห่วงป่าหมด แนะปลูกป่าเศรษฐกิจไว้ใช้ประโยชน์รอบป่าธรรมชาติที่ต้องอนุรักษ์ พร้อมหนุน วว. ทำเครื่องอบแห้งไม้ ร่วมนักวิจัยซินโครตอนพัฒนาเทคโนโลยี ลดนำเข้าไม้จากต่างประเทศ
นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.กระทรวงวิทยาและเทคโนโลยี เปิดเผยหลังจากเยี่ยมสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.51 ว่า ปัจจุบันป่าไม้ในประเทศไทยลดลงมาก เป็นเหตุให้เยาวชนรุ่นขาดแหล่งเรียนรู้ตามธรรมชาติ อีกทั้งทำให้ฤดูกาลผิดเพี้ยนไปจากเดิม ฝนตกผิดที่ผิดทาง ปัญหาน้ำแล้งจึงตามมา เลยเสนอแนวทางให้อนุรักษ์ป่าไม้ดั้งเดิมไว้พร้อมปลูกป่าเศรษฐกิจไว้ล้อมรอบเพื่อใช้ประโยชน์โดยไม่รบกวนธรรมชาติ
“ถ้าเราคิดเป็นกระบวนการ ปัญหาฝนแล้งจะแก้ไขได้ด้วยป่าเศรษฐกิจและป่าอนุรักษ์ ป่าอนุรักษ์เราต้องรักษาไว้ ขณะเดียวกันเราก็ปลูกป่าเศรษฐกิจไว้รอบๆ ซึ่งมันต้องมีกฎหมายที่เป็นมาตรฐาน” นายวุฒิพงศ์ เผยและบอกอีกว่าจะนำแนวคิดนี้ไปหารือร่วมกับกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อจัดทำแผนงานให้ชัดเจน ส่วนเรื่องกฎหมายนั้นจะนำไปหารือกับนายกรัฐมนตรีอีกทีหนึ่ง
ทั้งนี้ นายวุฒิพงศ์บอกว่าป่าเศรษฐกิจที่มองไว้นั้นจะต้องเป็นป่าที่ชาวบ้านมีส่วนร่วมและได้ประโยชน์จากป่านั้น ไม่ใช่ปลูกป่าให้นายทุนเข้ามาหาประโยชน์ ซึ่งเรื่องนี้จะมอบหมายให้นักวิจัยศึกษาร่วมกับภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยเน้นที่ไม้กินได้ โตเร็ว ให้ผลดีต่อเศรษฐกิจ เช่น สะตออิสาน กระบก ลูกดิ่ง ติ้ว เป็นต้น
นายวุฒิพงศ์เสริมอีกว่าจะให้นักวิจัยของ วว. พัฒนาเครื่องอบแห้งไม้ ป้องกันไม่ให้ขึ้นรา และทำให้ไม้อ่อนกลายเป็นไม้แก่สำหรับนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆ ที่ต้องใช้ไม้ ซึ่งหลายประเทศในแถบสแกนดิเนเวียก็ใช้เทคโนโลยีนี้เช่นกัน และเนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าไม้ปีละกว่า 70,000 ล้านบาท หากปลูกไม้โตเร็วและมีเครื่องอบไม้จะช่วยลดการนำเข้าได้มาก โดยจะให้ วว. ร่วมกันพัฒนากับ ศซ. ซึ่งมีความสามารถในด้านพัฒนาอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ เห็นได้จากเครื่องเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนที่พัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นจากเดิมได้เอง ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ.