กรีนพีซวอนรัฐบาลสมัคร 1 สานต่อการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนต่อจากรัฐบาลขิงแก่ ไม่อยากเห็นการล้มกระดานแล้วเริ่มจากศูนย์ใหม่ เพราะจะไม่ทันการ เชื่อเจตนาต้องการดิสเครดิตรัฐบาลเก่า ระบุต้องทำให้ส่วนท้องถิ่นนำไปปฏิบัติจริง ชม กทม.สัมฤทธิ์ผลในการแก้ปัญหาโลกร้อน ยอมรับหวั่นหากเปลี่ยนผู้ว่าใหม่อาจกระทบความต่อเนื่อง-เปลืองงบ
นายธารา บัวคำศรี ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเมื่อวันที่ 15 ก.พ.51 ในวาระครบรอบ 4 ปีของการบังคับใช้พิธีสารเกียวโตระหว่างชาติต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน โดยเสนอว่า รัฐบาลใหม่ควรสานต่อนโยบายการแก้ปัญหาต่อจากงานรัฐบาลชุดที่ผ่านมาที่ได้ทำจนมีความคืบหน้ามากแล้ว
ทั้งนี้ จากการที่นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญต่อการแก้ปัญหาดังกล่าวได้แสดงความคิดเห็นในเชิงจะไม่สานต่อนโยบายใดๆ ของรัฐบาลรักษาการณ์ชุดที่ผ่านมาในวาระเข้ารับตำแหน่ง โดยอ้างว่ารับไม่ได้กับการทำงานของรัฐบาลเผด็จการนั้น
นายธารา เผยว่า เขาไม่อยากเห็นรัฐบาลชุดใหม่ล้มกระดานความพยายามแก้ปัญหาที่ผ่านมาทั้งหมดแล้วเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ศูนย์ ซึ่งจะไม่ทันการ และแม้การตั้งคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การจัดตั้งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และการวางกรอบยุทธศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาจะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา
แต่ความจริงแล้ว ความพยายามแก้ปัญหาโลกร้อนมีมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นกระแสโลกที่ชัดเจน ไม่เกี่ยวกับว่ารัฐบาลที่มาจากระบอบเผด็จการหรือจากระบอบประชาธิปไตยเป็นผู้ผลักดัน
สาเหตุของการไม่ยอมรับอาจมีเจตนาต้องการดิสเครดิตของรัฐบาลเก่า โดยสิ่งที่ควรเร่งผลักดันในตอนนี้คือการส่งต่อนโยบายจากส่วนกลางให้หน่วยงานท้องถิ่นได้รับไปปฏิบัติจริงอย่างมีประสิทธิภาพที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
ส่วนผลสำเร็จของแผนปฏิบัติการว่าด้วยการลดปัญหาภาวะโลกร้อนของกรุงเทพมหานคร ระหว่างปี 2550-2555 ซึ่งตั้งเป้าหมายจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกรุงเทพฯ ลงอย่างน้อย 15% จาก 82 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เป็น 70 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ในตอนสิ้นสุดแผนนั้น ซึ่งได้ดำเนินการมาราว 1 ปี เขามองว่า มีผลน่าพอใจและแสดงถึงวิสัยทัศน์ตลอดจนความมุ่งมั่นได้ดี
อย่างไรก็ตาม ก็มองด้วยว่า ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ในอีกครึ่งปีต่อจากนี้ ก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารกรุงเทพฯ ซึ่งอาจทำให้แนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปได้
"ผมเชื่อว่าหากผู้ว่าฯ คนเดิม (นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน) ได้รับตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง ก็น่าจะสานต่อแผนนี้ต่อไป แต่ถ้ามีท่านอื่นมาก็อาจมีการปรับเปลี่ยน เพราะต้องยอมรับว่าเรื่องนี้จะมีเรื่องของการหาเสียงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งหากมีการล้มกระดานจริงก็จะทำให้ประเทศต้องสิ้นเปลืองงบประมาณไปด้วย" นายธารา กล่าว
ทั้งนี้ ในวาระครบรอบ 4 ปีการบังคับใช้พิธีสารเกียวโต กรีนพีซยังร่วมเฉลิมฉลองด้วยการเปิดรับสมัครเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนในโครงการ "ลงมือทำ ลดการใช้พลังงานที่บ้านเรา" เพื่อเชิญชวนเยาวชนระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาทั่วประเทศรู้จักปัญหาดังกล่าวอย่างลึกซึ้งและร่วมเป็นพลังในการรแก้ไขปัญหาด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.greenpeace.or.th หรือ www.youthgreenpeace.org โดยหมดเขตรับสมัครในวันที่ 30 เม.ย.51 นี้
