หลานย่าโมแปรน้ำมันทอดซ้ำเป็นเชื้อเพลิงอุ่นอาหารปลอดมลพิษ

นักเรียนเมืองย่าโมแปรน้ำมันพืชเหลือทิ้งเป็นเชื้อเพลิงแข็งอุ่นอาหาร ปลอดภัยต่อร่างกาย ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทั้งยังให้ความร้อนสูง ใช้ได้นานกว่า และราคาถูก เตรียมพัฒนาสูตรเพิ่มกลิ่นสมุนไพรให้เข้ากับบรรยากาศบนโต๊ะอาหารมื้อพิเศษ

เรื่องไบโอดีเซลก็ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาจัดการไป ส่วน 3 เยาวชนมัธยมต้นจากเมืองย่าโม ขอแปรเปลี่ยนน้ำมันทอดซ้ำที่เหลือทิ้งจากโรงอาหารให้มีมูลค่าด้วยการนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงแข็งสำหรับอุ่นอาหารได้ง่ายๆ แถมยังใช้ได้ดีและปลอดภัยกว่าเชื้อเพลิงเมทานอลราคาแพงที่ใช้กันอยู่ทั่วไป

นายสุทัศน์ ชนะค้า ชั้น ม.3, ด.ญ.วราภรณ์ ร่วมสกุล และ ด.ญ.วรินทร์ รัตนไพบูลย์วงศ์ ชั้น ม.2 จากโรงเรียนวังรางพิทยาคม จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า พลังงานงานเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน และพลังงานเกือบทั้งหมดล้วนได้มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งกำลังจะหมดไปและยังก่อให้เกิดมลพิษกับสิ่งแวดล้อม จึงเกิดแนวคิดที่จะพัฒนาเชื้อเพลิงแข็งจากน้ำมันทอดซ้ำ เพื่อทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและถ่านไม้

"ตอนนี้ประเทศไทยส่งเสริมให้นำน้ำมันที่ใช้แล้วไปทำไบโอดีเซลได้ แสดงว่าในน้ำมันต้องมีแอลกอฮอล์อยู่ ซึ่งน่าจะนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงแข็งได้ จึงได้ทดลองทำดู โดยใช้น้ำมันทอดซ้ำที่เหลือจากร้านอาหารในโรงเรียนและร้านอาหารละแวกใกล้เคียง และได้ทดลองเปรียบเทียบกับวัสดุเหลือใช้อื่นๆ ด้วย ได้แก่ เศษสบู่ เศษโฟม เมล็ดสบู่ดำ แต่ผลปรากฏว่าเชื้อเพลิงแข็งที่ผลิตจากน้ำมันทอดซ้ำมีประสิทธิภาพดีที่สุด" นายสุทัศน์ กล่าว

วิธีการทำเชื้อเพลิงแข็งจากน้ำมันทอดซ้ำ เด็กๆ อธิบายว่าเริ่มจากละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) 1 กรัม ในน้ำ 1 มิลลิลิตร และผสมกับเอทิลแอลกอฮอล์ 40 มิลลิตร จากนั้นนำไปผสมกับน้ำมันทอดซ้ำ 20 มิลลิตร ที่อุ่นจนเดือดอยู่บนเตาไฟ

ละลายกรดสเตียริก 5 กรัมในเอทิลแอลกอฮอล์ 40 มิลลิตร ปรับสภาพความเป็นกรดด่างด้วยบรอมไทมอลบลู (Bromthymol blue) 2 หยด แล้วนำไปผสมกับน้ำมันทอดซ้ำข้างต้น คนให้เข้ากันจนเดือดราว 1 นาที จึงเทใส่ภาชนะ ทิ้งไว้ให้เย็นจนแข็งตัวก็สามารถนำไปใช้ได้ ปริมาณส่วนผสมดังกล่าวจะได้เชื้อเพลิงแข็งประมาณ 3 ก้อน ก้อนละ 24 กรัม

นายสุทัศน์บอกอีกว่าหากใช้เมล็ดสบู่ดำเป็นวัตถุดิบ เชื้อเพลิงแข็งที่ได้จะให้พลังงานความร้อนช้ากว่า คือใช้เวลาประมาณ 4 นาที จึงทำให้น้ำเดือด และยังเผาไหม้หมดเร็วกว่า ส่วนที่ทำจากสบู่แม้จะมีระยะเวลาเผาไหม้นานและทำให้น้ำเดือดได้เร็วพอกันคือราว 2 นาทีกว่า แต่ว่าสบู่จะมีกลิ่นรบกวนกลิ่นอาหาร

"ดังนั้นเชื้อเพลิงแข็งจากน้ำมันทอดซ้ำจึงมีคุณภาพดีที่สุด ให้พลังงานความร้อนเร็ว มีระยะเวลาเผาใหม้นาน ไม่มีเขม่าและควัน ไม่มีสารพิษหรือกลิ่นรบกวน และเมื่อเปรียบเทียบกับเชื้อเพลิงแข็งจากเมทิลแอลกอฮอล์ที่นิยมใช้กันทั่วไปพบว่า เชื้อเพลิงแข็งจากน้ำมันทอดซ้ำให้พลังงานความร้อน 28.3 กิโลแคลอรีต่อ 1 กรัม และ 1 ก้อนเผาไหม้จนหมดใช้เวลานาน 17 นาที ส่วนเชื้อเพลิงแข็งจากเมทิลแอลกอฮอล์ให้พลังงานความร้อนเพียง 16.6 กิโลแคลอรีต่อ 1 กรัม และ 1 ก้อนขนาดเท่ากันเผาไหม้ได้นานเพียง 13 นาที นอกจากนี้เมทิลแอลกอฮอล์ยังมีเขม่าควันดำ และมีสารระเหยที่ระคายเคืองต่อดวงตาและเยื่อบุจมูกด้วย" นายสุทัศน์ กล่าว

ทีมวิจัยรุ่นเยาว์บอกอีกว่าได้นำไปให้ร้านอาหารต่างๆ ทดลองใช้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและส่วนใหญ่ก็พึงพอใจในคุณภาพ ซึ่งทางทีมวิจัยยังคิดเอาไว้ว่าต่อไปอาจพัฒนาสูตรโดยการเพิ่มกลิ่นของสมุนไพรต่างๆ เข้าไปด้วย เช่น ตะไคร้ มะกรูด สำหรับอุ่นอาหารประเภทต้มยำ เป็นต้น

ทั้งนี้ ผลงาน "เชื้อเพลิงแข็งจากน้ำมันทอดซ้ำ" ได้ร่วมจัดแสดงในโครงการค่ายนักประดิษฐ์รุ่นใหม่ งานวันนักประดิษฐ์ เมื่อวันที่ 2-5 ก.พ.ที่ผ่านมา