"วุฒิพงศ์ ฉายแสง" ยอมรับได้นั่ง ก.วิทย์เพราะพี่ชาย-อยากเห็นคนไทยคิดเป็นวิทยาศาสตร์

"วุฒิพงศ์" รับได้เป็น รมว.วิทยาศาสตร์ฯ คนล่าสุดเพราะพี่ชาย เผยอยากเร่งทำให้คนไทยคิดเป็นวิทยาศาสตร์ ป้องกันบ้านเมืองเสียหาย ขอใช้เวลาศึกษาข้อมูลสักระยะก่อนเริ่มเดินเครื่องทำงาน ชี้วิกฤติพลังงาน-โลกร้อน เป็นปัญหาเร่งด่วน ส่วนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต้องเร่งอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ

หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 6 ก.พ.51 ในส่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) คนที่ 27 เป็นไปตามคาดคือนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง ส.ส.เขต 2 จ.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชาชน

ทั้งนี้นายวุฒิพงศ์เป็นน้องชายของนายจาตุรนต์ ฉายแสงอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์งการเมือง โดยเขายอมรับว่า ที่ได้เป็นรัฐมนตรีเพราะนายสมัครเห็นฝีไม้ลายมือ นายจาตุรนต์ พี่ชาย

แต่นายวุฒิพงศ์ก็มั่นใจว่าจะสามารถทำงานในกระทรวงได้

อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีสิทธิคิดว่า รัฐมนตรีชุดนี้เหมือนเป็นนอมินีของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เพราะเมื่อกลุ่มเหล่านั้นไม่สามารถดำเนินการทางการเมืองได้ จึงมีคนอื่นที่มีความสามารถมาทำงานแทน

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องการเร่งจัดการโดยด่วนภายใต้หมวก รมว.วิทยาศาสตร์นั้น นายวุฒิพงศ์เผยว่า คือการทำให้คนไทยมีความคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งหากไม่เป็นเช่นนั้นแล้วย่อมทำให้บ้านเมืองได้รับความเสียหาย

นายวุฒิพงศ์ เผยต่อว่า ขณะนี้มีเรื่องวิทยาศาสตร์ที่ต้องเร่งจัดการหลายเรื่อง เช่น วิกฤติพลังงาน และปัญหาภาวะโลกร้อน อันเป็นปัญหาที่ท้าทาย ซึ่งตัวเขาเองขอใช้เวลาศึกษาข้อมูลระยะหนึ่ง และมีการปรึกษาหารือเพื่อตกผลึกความคิดกับบรรดาผู้บริหารกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ก่อนเริ่มดำเนินการใดๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป

เช่นเดียวกับทิศทางการผลักดันเรื่องพืชดัดแปลงพันธุกรรม และการสอบข้อเท็จจริงความไม่ชอบมาพากลการโครงการก่อสร้างศูนย์วิจัยนิวเคลียร์องครักษ์ จ.นครนายก

ขณะที่ประเด็นการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของประเทศไทย นายวุฒิพงศ์เน้นหนักไปยังเรื่องการสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนว่า ต้องมีการอธิบายและการเตรียมพร้อม ซึ่งต้องทำให้ประชาชนได้เห็นว่าทั่วโลกเป็นอย่างไร มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มากน้อยแค่ไหนและมีอย่างไร

ที่แม้แต่ตอนนี้ที่พม่าและเวียดนามก็ยังมีการเตรียมการก่อสร้างและมีการพูดคุยเรื่องงบประมาณกันแล้ว เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องเน้นไปยังการสื่อสารแก่ประชาชนได้เข้าใจเป็นสำคัญ

อย่างไรก็ดี นายวุฒิพงศ์เผยด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.51) เขาจะเข้ามายังกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นครั้งแรกหลังได้รับการโปรดเกล้าฯ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายใต้รัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี

ประวัตินายวุฒิพงศ์ ฉายแสง

นายวุฒิพงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2502 ที่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นน้องชายของ "จาตุรนต์ ฉายแสง" ซึ่งเป็น ส.ส. จังหวัดฉะเชิงเทรามาหลายสมัย เคยนั่งทั้งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการมาแล้วในรัฐบาลไทยรักไทย จนกระทั่งพี่ชายคนโตถูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์การเมืองในฐานะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

ส่วนตัวนายวุฒิพงศ์นั้นก้าวสู่เส้นทางการเมืองตั้งแต่ปี 2528 หลังจบการศึกษาปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นเลขานุการส่วนตัว รมช.อุตสาหกรรม

จากนั้นในปี 35-39 เป็นผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ฉะเชิงเทรา ปี 39 -40 เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ จ.ฉะเชิงเทรา และปี 44 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 4 จ.ฉะเชิงเทรา ในสังกัดพรรคไทยรักไทย

จากนั้นจึงย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชาชนร่วมกับนางฐิติมา ฉายแสง น้องสาวคนเล็กในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อ 23 ธ.ค.50 มาได้

ส่วนประวัติทางการศึกษานั้น เขาสำเร็จชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จากโรงเรียนเซนต์หลุยส์ จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และระดับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

นอกจากนี้เขายังเป็นผู้คิดค้นวิธีเพาะกล้าไม้สักเรียกว่า "การเพาะกล้าสักด้วยตา" ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตร นับเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด และได้คุณภาพดีที่สุด อีกทั้งเขายังได้ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือสักใหญ่และถวายคำบรรยายเกี่ยวกับวิธีคิดการเพาะกล้าต้นสักที่มีอายุเก่าแก่ 1,500 ปี ซึ่งเป็นต้นสักที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นวิธีการใหม่อีกวิธีหนึ่งที่ค้นพบได้เองแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 10 ก.พ.43