“อภิสิทธิ์” ส่ง ก.วิทย์ ลงใต้คุยทหารเลิกใช้ จีที 200 พรุ่งนี้ จ่อใช้เครื่องตัดสัญญาณช่วยกันกู้บึ้ม เผยมติ ครม.ให้ทุกหน่วยที่ซื้อไปทำรายงานสั่งซื้อทั้งหมด โยน “สาทิตย์” ดูความผิดบริษัทที่ขาย ย้ำอย่าเอาไปใช้กับตัวบุคคล - รองผู้ว่าฯ สตง.เผยเริ่มสอบโกงแล้ว พบราคาต่างกันจริง อัลฟา 6 ก็มีด้วย “เจะอามิง” เซ็งกองทัพไม่ให้เอกสารจัดซื้อจัดจ้าง อ้างเป็นความลับสุดยอด
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ถึงผลการรายงานการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 และอัลฟา6 ว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ได้ทำผลการตรวจสอบให้ ครม.ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และครม.ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกับหน่วยงานที่ปฏิบัติในพื้นที่ ร่วมกับกระทรวงกลาโหม และกองทัพบก ซึ่งเข้าใจว่าจะนัดหมายลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) และภายในช่วงสัปดาห์นี้ให้เร็วที่สุด เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจและปรับแผนการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อไม่ให้มีการใช้เครื่องมือดังกล่าว
“ระหว่างนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่ให้มีการใช้เครื่องมือตัวนี้ (จีที 200) กับบุคคลในเรื่องการตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 แล้วใครที่นำเครื่องมือดังกล่าวไปตรวจพื้นที่ ประชาชนและเจ้าตัวจะต้องแจ้งความเสี่ยงของการใช้เครื่องมือตัวนี้ ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์เตรียมความพร้อมที่จะลงไปทำความเข้าใจชี้แจง และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีที่คิดว่าจะช่วยงานกองทัพได้ เช่น เครื่องตัดสัญญาณ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ในการวางแผนโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือตัวนี้ต่อไป” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ส่วนกรณีอัลฟา 6 จะให้มีการทดสอบเช่นเดียวกับกรณีจีที 200 ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์จะรับไปดำเนินการ นอกจากนั้นมีมติให้ทุกหน่วยงานที่ได้ซื้อจีที 200 จัดทำรายงานเกี่ยวกับการจัดซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวว่าทำรายงานเข้ามา การจัดซื้อจัดจ้าง เริ่มต้นอย่างไร ราคาเท่าไหร่ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ห้วงเวลายังไง กระบวนการอย่างไร และยังให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ดูความรับผิดของบริษัท ในเชิงข้อกฎหมายด้วย
เมื่อถามว่า จีที 200 มีกรอบเวลาที่ชัดเจน เมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทั้ง 2 กระทรวง คือ กระทรวงวิทย์ และกระทรวงกลาโหม จะนัดเจอกับตน อย่างช้าไม่น่าจะเกินสัปดาห์นี้ และไม่น่าจะเกินสัปดาห์หน้า โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับนักวิชาการจะต้องเข้าไปชี้แจง เราอยากจะทำให้ราบรื่นเร็วที่สุด เมื่อถามอีกว่า ในเมื่อทางกระทรวงกลาโหมมีสำนักงานวิทยาศาสตร์กระทรวงอยู่แล้ว ทำไมต้องให้กระทรวงวิทยาศาสตร์เข้าไปชี้แจง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพราะเขาเป็นคนทำการทดลอง และการทดลองมีทุกฝ่ายอยู่พร้อม และรับรองผล เมื่อถามอีกว่า ระยะเวลาที่เร็วที่สุดคือเมื่อไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม บอกว่า ถ้าอยากจะไปวันนี้ก็ไปได้เลย ซึ่งกำลังนัดหมายกันอยู่ ให้เวลาเขาคุยกันก่อน เราไปบอกล่วงหน้าอย่างนั้นอย่างนี้ก็เท่ากับว่าเราไม่ได้ให้เวลารับฟังทำความเข้าใจกันอย่างแท้จริง
“เรารู้อยู่แล้วว่าเป้าหมายคือเลิกใช้ แต่ว่าก่อนที่จะไปสู่จุดนั้นต้องนำไปสู่การทำความเข้าใจ เรา เมื่อวานนี้คำอธิบายเหตุที่เกิดขึ้นที่โคกโพธิ์ก็ต่างกัน ฝ่ายที่หนึ่งบอกว่า เมื่อมีอุปกรณ์นี้ก็เกิดเหตุระเบิด หน่วยงานก็รายงานว่า คนที่ใช้อุปกรณ์ตัวนี้ยังไม่ทันเข้าไปถึงพื้นที่ก็เกิดเหตุระเบิด ขณะเดียวกัน ลองสมมติว่าถ้าไม่มีอุปกรณ์ตัวนี้และเขาถูกระเบิด ก็จะถูกมองว่าผมไปห้ามเขาใช้ก็เลยไม่สามารถตรวจระเบิดเจอ ต้องเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดอยู่ขณะนี้ว่าเราได้มีการพิสูจน์ ในส่วนกลางจะเอาไปชี้แจงกับผู้ปฏิบัติที่มีความเชื่อในทางตรงกันข้าม ซึ่งเราก็เห็นว่าเขามีความเชื่อในทางตรงกันข้าม และขณะเดียวกัน จนถึงวันนี้ไม่มีเทคโนโลยีอื่น หรืออุปกรณ์ตัวเอง ใช้งานเหมือนอุปกรณ์ตัวนี้ได้ เราก็บอกว่าอย่าเอาอุปกรณ์ตัวนี้ไปใช้เกี่ยวข้องกระทบต่อสิทธิกับประชาชน และใครจะใช้เจ้าตัวและประชาชนในพื้นที่ต้องรู้ว่ามันมีผลการตรวจสอบอย่างนี้อยู่” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า ในระหว่างการพิจารณารายงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่องสรุปผลการทดสอบเครื่องมือจีที 200 นั้น นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งว่าแม้ไม่ได้ระบุว่าให้มีการยกเลิกให้ใช้เครื่องมือจีที 200 แต่ก็อาจจะนำไปสู่การยกเลิกใช้ในที่สุด ซึ่งนายกฯขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ มีการสอบถามทั้งฝ่ายกฎหมายและฝ่ายความมั่นคงว่า เมื่อไม่มีเครื่องมือนี้แล้วจะทำอย่างไร และหากห้ามเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือแล้วจะมีความผิดในสัญญาตรงไหนหรือไม่ แต่ตามหลักการแล้ว ครม.มีมติว่าไม่ให้ใช้กับตัวบุคคลอีกต่อไป โดยมอบหมายให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปศึกษามาตรการเพื่อดูความรับผิดของบริษัทผู้จำหน่ายอุปกรณ์
ขณะที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แจ้งว่า สำหรับกรณีของเครื่องอัลฟา 6 ที่กรมการปกครองใช้เพื่อตรวจสอบยาเสพติดอย่างเดียวของให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เข้ามาตรวจสอบให้ด้วย เช่นเดียวกับกระทรวงยุติธรรมก็ร้องขอให้เข้ามาตรวจสอบอัลฟา 6 ที่ ป.ป.ส.และใช้อยู่เช่นกัน ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ก็รับที่จะเข้ามาตรวจสอบเร็วๆ นี้
แหล่งข่าวคนดังกล่าวเปิดเผยอีกว่า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมว.วิทยาศาสตร์ฯ แจ้งต่อ ครม.ว่า ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (สวทช.) หรือเนคเทค ได้ทำการวิจัยและพัฒนาเครื่องตัดสัญญาณใน 3 รูปแบบ ประกอบด้วย เครื่องตัดสัญญาณโทรศัทท์มือถือ เครื่องตัดสัญญาณวิทยุสื่อสาร (วอล์กกี้-ทอล์กกี้) และเครื่องตัดสัญญาณรีโมตคอนโทรล โดยเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ มีอยู่ประจำการ 88 เครื่อง ขณะที่อีก 2 ชนิดหลังนั้นกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ทำการวิจัย คิดค้นและพัฒนาได้สำเร็จแล้ว จำนวน 3 เครื่อง ขณะที่รมว.กระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า มีกว่า 33 หน่วยงานที่พร้อมจะนำมามาทดลองใช้ และขอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นำลงไปสาธิตวิธีการใช้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
“วันนี้ ครม.เห็นชอบอนุมัติงบประมาณจำนวนหนึ่งให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไม่มากนัก เพื่อลงไปสาธิตเครื่องมือทั้ง 2 ชนิดนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการพูดถึงเครื่องมือเซเบอร์ 4000 และเครื่องไฟโดร์ ของสหรัฐอเมริกาเพราะเห็นว่า เป็นเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดระยะใกล้ และเป็นเครื่องมือเก่า”
ขณะที่ รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายเจะอามิง โตะตาหยง เป็นประธานคณะกรรมาธิการและเป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่อง จีที 200 เป็นประธานในที่ประชุม โดยการประชุมครั้งนี้กรรมาธิการฯได้เชิญผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินมาให้ ข้อมูลแต่ฝ่าย สตง.ได้มอบหมายให้นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและคณะมาชี้แจง โดยนายพิศิษฐ์ได้ชี้แจงต่อกรรมาธิการฯว่าขณะนี้ สตง.ได้เข้ามาตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง เครื่องจีที 200 แล้วและได้ตั้งข้อสังเกตุเบื้องต้นว่ามีการตั้งราคาที่แตกต่างกันจริง โดยมีเพียงแค่บริษัทเดียวที่เป็นผู้เสนอราคาและชนะการประมูลโดยวิธีพิเศษ ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งสตง.จะเข้าไปดูในรายละเอียดว่า การจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละครั้งมีการฮั้วกันหรือไม่ แม้กระทั่งต้องตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อด้วย
โดยภายหลังการประชุม นายเจะอามิงกล่าวว่า กรรมาธิการได้ขอเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างจากกองทัพ แต่ทางกองทัพแจ้งว่าเป็นความลับที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ดังนั้นในสัปดาห์หน้ากรรมาธิการฯจะเชิญบริษัทเอกชนที่เป็นผู้ดำเนินการ เรื่องนี้มาให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม แม้กองทัพจะไม่ให้เอกสารการจัดซื้อจัดจ้างต่อกรรมาธิการฯ แต่กรรมาธิการฯและสตง.ก็ยังสามารถหาได้จากส่วนอื่น โดยเรื่องนี้ได้พันไปถึงการจัดซื้อเครื่องอัลฟา 6 ด้วย ที่สตง.ได้เข้าไปตรวจสอบระยะหนึ่งแล้วและพบว่ามีความผิดปกติในเรื่องราคา เช่นเดียวกันแต่มีหลายบริษัทเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่ง สตง.ระบุว่าจะสามารถสรุปความผิดปกติของการจัดซื้อเครื่องอัลฟา 6 ส่ง ป.ป.ช.ได้ก่อนจีที 200
นายเจะอามิงกล่าวอีกว่า สำหรับตนถือว่าได้จบภารกิจจากการเป็นคณะกรรมการตรวจสอบประสิทธิภาพของจีที 200 แล้ว ส่วนที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดเดิมมาตรวจสอบโครงการอัลฟา 6 อีกนั้น คณะกรรมาธิการฯมีมติไม่อนุญาตให้ตนไปร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบ เพราะไม่อยากให้ใช้คณะกรรมการชุดเดียวกับจีที 200 เนื่องจากสังคมอาจเกิดข้อคลางแคลงใจได้