ยุคนั้นจึงเป็นยุคที่วิทยาศาสตร์กำลังเริ่มต้น และสังคมอังกฤษกำลังต้องการรู้เหตุผลสำหรับทุกเรื่อง และ Joseph Wright ก็ได้เป็นบุคคลหนึ่งที่ใช้ภาพวาดช่วยในการนำมาซึ่งการปฏิรูป
ในการศึกษาแรงดลใจที่ชักนำให้ Wright วาดภาพ “Lecture” เราต้องรู้ว่า Wright มีเพื่อนที่เป็นนักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์และนักอุตสาหกรรมหลายคน และคนเหล่านั้นล้วนเป็นสมาชิกของสมาคมชมจันทร์แห่ง Birmingham เช่น Josiah Wedgwood ผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผายี่ห้อ Wedgwood ที่มีชื่อเสียง และ Richard Arkwright ผู้ประดิษฐ์เครื่องปั่นฝ้าย นอกจากนี้ Wright ก็มีเพื่อนชื่อ Eramus Darwin ผู้เป็นปู่ของ Charles Darwin ด้วย ซึ่งในเวลานั้น Eramus Darwin เป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในอังกฤษ เพราะเคยปฏิเสธที่จะเป็นแพทย์หลวงแห่งราชสำนัก และเป็นคนที่รอบรู้วิทยาศาสตร์หลายเรื่อง เช่น ธรณีวิทยา เคมี ชีววิทยา อุตุนิยมวิทยา คมนาคม อีกทั้งเป็นนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพของสตรี เป็นผู้ที่สนับสนุนการปฏิวัติในฝรั่งเศส และสนับสนุนการเลิกทาสในอเมริกา ถึง Eramus Darwin จะปฏิเสธที่จะถวายการรักษาแก่กษัตริย์ แต่เขาก็ยินดีเป็นแพทย์ประจำตัว Wright นอกจากนี้ นักประดิษฐ์ James Watt ผู้สร้างเครื่องจักรไอน้ำเป็นคนแรกในปี 2308 ก็เป็นเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ Wright รู้จัก เพราะในสมัยนั้นโลกยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และผู้คนได้พลังงานส่วนใหญ่จากน้ำ ม้า และกำลังคนเอง ดังนั้น เมื่อ Watt สร้างเครื่องจักรไอน้ำได้ ยุโรปก็ก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมทันที
ถึง Wright จะมีเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงหลายคน แต่คนที่มีอิทธิพลต่อความสนใจวิทยาศาสตร์ของเขามากที่สุด คือ John Whitehurst ผู้เป็น Fellow of the Royal Society (F. R. S.) ที่เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา และ Whitehurst เองก็เป็นเพื่อนกับ James Ferguson ผู้เป็นนักประดิษฐ์ที่ชอบสร้างอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ และเมื่อ Ferguson ได้บรรยายเรื่องสุริยจักรวาลที่สมาคมชมจันทร์ การบรรยายของ Ferguson ได้ชักนำให้ Earl of Orrery คิดประดิษฐ์อุปกรณ์แสดงทางโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ ที่คานของอุปกรณ์นี้สามารถบังคับให้ดาวเคราะห์เลื่อนตำแหน่งได้บนแถบเหล็กโค้ง ส่วนดวงอาทิตย์นั้นอยู่ที่ตรงกลางของอุปกรณ์ เพราะ Orrery ได้ประดิษฐ์อุปกรณ์นี้ในปี 2305 โลกจึงเรียกอุปกรณ์นี้ว่า orrerry
ในภาพ Lecture on the Orrery เราจะเห็นนักวิทยาศาสตร์คนใส่เสื้อคลุมแดงยืนเด่นอยู่กลางภาพ และกำลังบรรยายเรื่อง สุริยจักรวาล ด้านขวาของนักวิทยาศาสตร์เป็นชายหนุ่ม ชื่อ Peter Perez Burdett ผู้เป็นเพื่อนของ Wright และเป็นนักทำแผนที่ เขาจึงสนใจดาราศาสตร์ด้วย และกำลังจดคำบรรยายอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนคนที่ยืนซ้ายสุดเป็นสตรี ภาพจึงแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงอังกฤษได้เริ่มให้ความสนใจวิทยาศาสตร์แล้วโดยเธอได้เข้ามานั่งฟังคำบรรยายด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ยังไม่เป็นที่นิยมกันมากในหมู่สตรี แต่ในฝรั่งเศสความสนใจวิทยาศาสตร์ของสตรีมีมากกว่า ดังจะเห็นได้จากการแปลผลงานของ Newton โดย Marquis du Chatelet และในอิตาลี Francesco Algarotti ได้เรียบเรียงตำราชื่อ Newtonian Science for the Lady ให้ผู้หญิงอิตาเลียนอ่านกันแพร่หลายนานแล้ว
จุดโฟกัสของภาพ Lecture อยู่ที่ใบหน้าของเด็กชายหญิงสองคน ที่ถูกแสงเทียนจับ ทำให้ดูใส ดวงตาของเด็กหญิงที่เป็นประกายสว่าง เมื่อเธอได้ยินเรื่องสุริยจักรวาล แสดงให้เห็นว่า เธอกำลังเข้าใจ ตื่นเต้น และกำลังสนุกที่ได้รู้กลไกที่ทำให้ดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์ และเด็กทั้งสองคนกำลังเพลิดเพลินกับการสาธิตวิทยาศาสตร์อย่างไม่แสดงอาการเบื่อแม้แต่น้อย ข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง คือ Wright ได้วาดภาพเด็กที่มีฐานะสังคมอยู่ในระดับกลาง ซึ่งแตกต่างจากจิตรกรคนอื่น ๆ ในสมัยนั้นที่นิยมวาดภาพเจ้าชายหรือเจ้าหญิงน้อยแห่งราชสำนักเท่านั้น ชายสองคนที่ยืนข้างขวาของภาพ คือ Whitehurst กับ Darwin และ Wright ยังได้วาดภาพเงาดำของเด็กอีกคนยืนบังเทียนที่กำลังลุกสว่างที่จุดศูนย์กลางของ Orrery ด้วยซึ่งเทียนไขนี้ทำหน้าที่เป็นดวงอาทิตย์ ส่วนแถบวงแหวนเหล็กรูปวงรีที่เรียงซ้อนกันนั้นแสดง วิถีโคจรของดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในภาพเราจะเห็นบริเวณโดยรอบคนทั้งแปดไม่มืดสนิท เพราะมีหนังสือหลายเล่มอยู่ทางด้านหลังของภาพ และนั่นก็แสดงว่า การบรรยายนี้เกิดขึ้นที่ห้องสมุดแห่งหนึ่ง นอกจากนี้การเห็นผู้ฟังที่มีทั้งเด็ก บุรุษ และสตรี ในอิริยาบถที่สบาย ๆ แสดงให้เห็นว่า ห้องสมุดนี้มิได้อยู่ในมหาวิทยาลัย แต่เป็นห้องสมุดในบ้านของผู้มีอันจะกิน
เมื่อ Wright วาดภาพจาก 147.3 x 203.2 เซนติเมตร นี้เสร็จ ภาพถูกนำออกแสดงเป็นครั้งแรกที่ลอนดอน และขณะนี้ภาพอยู่ที่ Derby Art Gallery ซึ่งมีภาพวาดของ Wright อีก 7 ภาพด้วย และตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2550 ถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2551 ทางพิพิธภัณฑ์ Walker Art Gallery แห่งเมือง Liverpool ได้จัดให้มีงานแสดงภาพวาดของ Wright โดยเฉพาะ เพราะ Wright ได้เคยมาใช้ชีวิตส่วนหนึ่งของเขาที่ Liverpool จนทำให้โลกศิลปะยอมรับและรู้จักเมือง Liverpool ทั้ง ๆ ที่ก่อนนั้น Liverpool มี George Stubbs ผู้มีชื่อเสียงในการวาดภาพม้า แต่ Stubbs ก็มิได้ทำให้ Liverpool โดดเด่นด้านศิลปะมากเท่า เมื่อ Wright แห่ง Derby มา สังคมจึงตระหนักว่า Liverpool มีจิตรกรผู้ถนัดการวาดภาพเหมือน และภาพการสอนวิทยาศาสตร์ที่สดใสอยู่ด้วยแสงเทียน
สุทัศน์ ยกส้าน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท