นานากิจกรรมความรู้คู่ความบันเทิงถูกจัดวางอยู่ทั่วศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ) ในวันเด็กแห่งชาติปีนี้ ทั้งกิจกรรมในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งมีไม่มากวันนักในแต่ละปีที่จะได้เห็นกิจกรรมที่พ่อแม่และลูกๆ จะสนุกร่วมกันได้เหมือนวันนี้
ทันทีที่เข้ามายังลานด้านหน้าของท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ ก็จะพบเข้าทันทีกับเต็นท์กิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ที่ทางศูนย์ฯ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตลอดจนห้างร้านเอกชนขนมาแสดง เช่น นิทรรศการความรู้เรื่องพลังงานทดแทน น้ำมันไบโอดีเซล -เอทานอล พร้อมเกมเปิดแผ่นป้ายชิงรางวัลจาก บริษัท บางจากปิโตรเลียมฯ เกมรถบังคับวิทยุพลังงานแสงอาทิตย์จาก บ.เอกรัฐ โซล่าร์ฯ
"มาร่วมงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าครับ เดินดูงานจนทั่วแล้ว ก็รู้สึกสนุก ชอบกิจกรรมเซลล์แสงอาทิตย์มากที่สุด เพราะเราสามารถนำแสงแดดมาทำประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ เช่น ใช้กับรถบังคับก็ทำให้มันวิ่งได้" น้องนาย "ด.ช.สุวัช แสวงรัมย์" นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนวัดธาตุทอง ว่า
สำหรับบรรยากาศทั่วไปของงานวันเด็กแห่งชาติ ณ ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ ปีนี้ได้คลาคล่ำไปด้วยลูกเล็กเด็กแดงที่จูงมือคุณพ่อคุณแม่มาเที่ยวชมงานกันตั้งแต่เช้านับพันๆ คน ซึ่งกิจกรรมยังรวมไปถึงกิจกรรมการจุดไม้ขีดด้วยแสงแดด กังหันพลังแสงอาทิตย์ และเมื่อท้องเริ่มร้องก็อาจไปชิมลิ้มรสไส้กรอกชีสที่ใช้แสงอาทิตย์ปรุงให้สุกได้ ซึ่งน้องๆ หลายคนต่างรบเร้าให้คุณพ่อคุณแม่เข้าแถวรอรับชิ้นใหม่ เพราะต้องการลิ้มรสความเอร็ดอร่อยมากขึ้นไปอีก
"พาน้องเขามาครั้งแรกค่ะ เพราะเห็นว่ามาที่นี่แล้วมีความรู้ให้น้องเขาได้เรียนรู้ด้วย นานๆ จะมีกิจกรรมดีๆ อย่างนี้สักที หากเทียบกับกิจกรรมที่ตามห้างจัดแล้ว มันก็มีอยู่เรื่อยๆ ไปเมื่อไหร่ก็ได้" นางวารุณี อุทัยพัฒนะศักดิ์ ที่อุ้มน้องเกาลัด "ด.ญ.ณฐกร ธรรมสาร" วัยสี่ขวบมาร่วมกิจกรรมกล่าว ซึ่งตัวน้องเกาลัดเองก็ตอบว่าสนุกและตื่นเต้นกับการมาเที่ยวงานวันเด็กปีแรกที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ
ขณะที่ สสวท.พันธมิตรบ้านใกล้เรือนเคียงยังได้นำกิจกรรมวิทยาศาสตร์ -คณิตศาสตร์ มาร่วมงานด้วย เช่น การประดิษฐ์บูมเมอแรงจากกระดาษ การต่อรูปเรขาคณิต การทำกล้องสเปคโตรสโคปเพื่อแยกแสงแดดเป็นสายรุ้งจากกระดาษและแผ่นซีดี รวมถึงการประดิษฐ์หุ่นยนต์จากลวดและหลอดกาแฟ โดยไฮไลต์สำคัญยังอยู่ที่การฉายภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ 3 เรื่องตลอดวัน คือ หมากับแมวใครฉลาดกว่ากัน ความลับในดวงอาทิตย์ และศึกสงครามของมดกับปลวก
นอกจากนั้น งานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2551 ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ) ยังเปิดให้น้องๆ เข้าชมและร่วมกิจกรรมได้ฟรีตลอดวัน ไม่เว้นแม้แต่ชุดนิทรรศการถาวร ชุดพิพิธภัณฑ์โลกใต้น้ำ ชุดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และชุดนิทรรศการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ขาดไม่ได้คือ โดมฉายดาวของที่นี่
"ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนราชดำริ ใกล้ๆ ราม 2 บ้านอยู่อุดมสุข เพื่อนๆ ก็บอกว่าเที่ยวใกล้ๆ บ้านก็พอแล้ว แต่ผมอยากมาที่ท้องฟ่าจำลองมากกว่า มาเป็นประจำหลายปีแล้ว ก็ครึกครึ้นเหมือนทุกๆ ปี"
"ส่วนตัวชอบมาที่นี่เพราะชอบดูดาว ที่นี่จึงเป็นที่โปรดเลย มาแล้วก็ได้ความรู้เรื่องดวงดาวต่างๆ บนท้องฟ้าว่ามีที่มาเป็นยังไง โดยเฉพาะวันเด็กที่จะนำเรื่องใหม่ๆ มาฉาย" น้องแบงก์ "ด.ช.พงศธร พ่วงศรีไพร" อายุ 13 ปี กล่าว
โดยเฉพาะวันนี้เท่านั้นที่โดมฉายดาวจะมีการจัดฉายดาวเป็นกรณีพิเศษเรื่อง "นิทานดวงดาว" ซึ่งจะบอกเล่าที่มาที่ไปของหมู่ดาวในรูปของนิทาน เช่น เรื่องราวของเจ้าหญิงยูโรปากับกลุ่มดาววัว เฮอร์คิวริสกับดาวนายพราน และนิทานกำเนิดของกลุ่มดาวลูกไก่
น้องๆ หรือพ่อแม่ผู้ปกครองรายใดสนใจอยากร่วมกิจกรรม ยังพอมีเวลาจนถึงเวลา 16.30 น. หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2392-1773
คลิกที่ไอคอน Manager Multimedia
เพื่อรับชมภาพ วันเด็กที่ท้องฟ้าจำลอง "ความสุขน้อยๆ" ของเจ้าตัวเล็ก เพิ่มเติม