มุ่งเป้าในการขยายโอกาสในการแสวงหาการเติบโต และการจับมือร่วมกันระหว่างผู้บริหารและองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กรุงเทพฯ(28สิงหาคม2567)-สถาบันบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน(MIT Sloan School of Management)เตรียมเปิดตัวสำนักงานนานาชาติ ภายใต้ชื่อ“สำนักงานเอ็มไอที สโลน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (MIT Sloan Office for Southeast Asian Nations – MSAO)”เป็นแห่งที่2นอกประเทศสหรัฐอเมริกาณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ในเดือนตุลาคม2567นี้ เพื่อส่งเสริมโอกาสในการขยายขอบเขตการศึกษา การเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และการประชุมสุดยอดอาเซียนในอนาคต
นางจอร์เจีย เปรากิส รักษาการคณบดี จอห์น ซี. เฮด ที่3แห่งสถาบันบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน กล่าวว่า“การขยายขอบเขตการดำเนินงานของสถาบันธุรกิจเอ็มไอที สโลน มายังภูมิภาคอาเซียนในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพด้านการเรียนรู้เชิงปฏิบัติให้กับนักศึกษาในปัจจุบัน แต่ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขยายขอบเขตการศึกษาในหัวข้ออื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ด้านสภาพภูมิอากาศ ปัญญาประดิษฐ์ การพัฒนาแนวคิดผู้ประกอบการ และการศึกษารูปแบบการทำงานแห่งอนาคต ซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างทั้งในระดับประเทศและระดับโลก”
สำนักงานเอ็มไอทีสโลนในกรุงเทพฯจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางเชิงกลยุทธ์ในการขยายขอบเขตการดำเนินงานของสถาบันทั่วภูมิภาคอาเซียนเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตและความแข็งแกร่งของเครือข่าย
ศิษย์เก่าเอ็มไอทีที่ดีเยี่ยม มีศักยภาพและโอกาสสำหรับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย บริษัทชั้นนำ และหน่วยงานรัฐบาล เพื่อร่วมกันจัดสัมมนา และการประชุมประจำปีในภูมิภาค นอกเหนือจากโครงการวิจัยที่ได้ดำเนินการในปัจจุบันที่มุ่งเน้นในหัวข้อความพร้อมรับมือต่อการขยายตัวของเมือง(urbanization and resiliency)ความท้าทายด้านสถานการณ์น้ำต่อภาคเกษตรกรรม(water and agricultural challenges)และความพร้อมของวัคซีนและการติดตามผล(vaccine availability and tracking)
นางแคธริน ฮอว์กส์ รองคณบดีอาวุโสฝ่ายพันธมิตรระหว่างองค์กรแห่งสถาบันบริหารธุรกิจเอ็มไอที สโลน กล่าวเพิ่มเติมว่า“เอ็มไอที มีศิษย์เก่ากว่า1,900คนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจำนวนนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต เมื่อพิจารณาจากความสนใจของคณาจารย์และนักศึกษาที่มีต่อโอกาสในการวิจัยและความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยการก่อตั้งสำนักงานนานาชาติในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยผนึกกำลังของสมาชิก
เอ็มไอที สโลน และภูมิภาคอาเซียนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกผ่านงานวิจัยที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงแผนงานพัฒนาโปรแกรมการศึกษา การวิจัย และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”
นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2545โครงการMIT Sloan Action Learningได้เปิดให้นักศึกษาจำนวนกว่า700คน ได้มีโอกาสเข้าร่วมการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ในหลากหลายหัวข้อ อาทิ ฟินเทค เศรษฐกิจสูงวัย(aging and the economy)และอีกมากมาย ผ่าน200โครงการครอบคลุม5ระดับหลักสูตรการศึกษา ซึ่งจัดขึ้นโดย96บริษัทในประเทศกัมพูชา มาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม
“การเปิดสำนักงานนานาชาติแห่งที่2นอกประเทศสหรัฐอเมริกาต่อจากสำนักงาน เอ็มไอที สโลน ที่เมืองซันติอาโก ประเทศชิลีเพื่อตอบวัตถุประสงค์ในการมอบการศึกษาให้ครอบคลุมทั่วภูมิภาคละตินอเมริกา ถือเป็นช่วงเวลาอันน่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเราหวังว่าการเปิดสำนักงานในครั้งนี้ จะช่วยก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้บริหารและผู้ประกอบการชั้นนำในภูมิภาค พร้อมเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเครือข่ายศิษย์เก่าและพันธมิตรที่จะขยายการเติบโตต่อไป”นายเดวิด คาโพดิลูโป ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายโปรแกรมระดับโลกของสถาบันบริหารธุรกิจ เอ็มไอที สโลน กล่าวเสริม
สำนักงาน เอ็มไอที สโลน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(MSAO)จะช่วยเสริมศักยภาพและร่วมกำหนดกรอบการทำงาน รวมถึงปรับรูปแบบความเป็นผู้นำให้กับผู้ประกอบการในภูมิภาค ผ่านการต่อยอดกิจกรรมต่างๆ ในโครงการGlobal Programsซึ่งรวมถึงMIT Regional Entrepreneurship Acceleration Programที่มุ่งเสริมการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในภูมิภาค ผ่านการนำเสนอผลงานวิจัยและแนวทางจากคณาจารย์ชื่อดังระดับโลกInnovation Dynamic Education and Action for Sustainabilityโครงการฝึกอบรมผู้นำเพื่อพัฒนาทักษะด้านการจัดการความยั่งยืน และVisiting Fellowsโครงการที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาและศิษย์เก่าของสถาบันได้กำหนดรูปแบบการศึกษาจากสถาบันวิจัยชั้นนำของโลกด้วยตนเอง เพื่อนำไปพัฒนาทักษะที่จำเป็นในเวลาอันรวดเร็ว
MSAOมีเป้าหมายที่จะดำเนินงานร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างใกล้ชิด ยกตัวอย่างเช่นAsia School of Businessณ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางประเทศมาเลเซีย โดยมีการนำเสนอหลักสูตรปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจ(MBA)ปริญญาโทบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหาร(EMBA)และปริญญาโทด้านการธนาคารกลาง(Master’s degree in Central Banking programs)ให้กับเหล่าผู้เรียน
ธนาคารกรุงเทพ ถือเป็นหนึ่งในองค์กรที่ร่วมสนับสนุน พร้อมร่วมงานกับเอ็มไอที สโลนในภูมิภาคนี้มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2557 โดยนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพและศิษย์เก่า
เอ็มไอที รุ่นSM ’83และSM ’84กล่าวว่า“สำนักงานเอ็มไอที สโลน มีความโดดเด่นในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านคณาจารย์และหลักสูตรระดับโลก ผมมองว่าการเปิดตัวMSAOในครั้งนี้จะช่วยผสานพลังความร่วมมือที่มีอยู่ พร้อมทั้งเปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายใหม่ๆให้เกิดขึ้นได้”
นอกจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ที่ร่วมให้การสนับสนุนในครั้งนี้แล้วสำนักงานเอ็มไอที สโลน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(MSAO) ยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กรชั้นนำของประเทศไทยหลายแห่งในการสมทบทุนก่อตั้งสถาบัน ได้แก่ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด(มหาชน) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด(มหาชน) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) และบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด เป็นต้น
ทั้งนี้สำนักงานเอ็มไอที สโลน แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(MSAO) เตรียมพร้อมที่จะจัดงานเปิดสำนักงานใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมกับเชิญศิษย์เก่ามาร่วมงานเสวนาในหัวข้อ“Beyond Years: The Future of Longevity”ซึ่งนำทีมโดยผู้เชี่ยวชาญจากเอ็มไอทีและผู้ทรงคุณวุฒิในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อร่วมพูดคุยเกี่ยวกับผลกระทบต่อความยั่งยืนซึ่งเกิดจากการมีอายุขัยยืนยาว ในเดือนตุลาคม2567ที่กำลังจะมาถึงนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม–คำกล่าวผู้บริหาร
“ปัจจุบัน เอ็มไอที ได้ดำเนินงานวิจัยที่ล้ำสมัยเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายในด้านความยั่งยืนในภูมิภาคนี้ โดยผม
ตั้งตารอที่จะเห็นผลลัพธ์จากMSAOซึ่งจะสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” -นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)
“สำนักงานเอ็มไอที สโลน สำหรับประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(MSAO)เป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นของเอ็มไอที สโลน ที่จะสร้างผลกระทบเชิงเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญต่อภูมิภาคของเรา โดยพวกเราต่างตั้งตารอคอยวันที่สำนักงานจะเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการ” -นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด(มหาชน)