อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พร้อมด้วยผู้บริหารสถาบันฯ ตั้งโต๊ะแถลงแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของ "น้องหยอด-ครูเจี๊ยบ" ยันตรวจสอบรายชื่อแล้วผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมทั้งหมดพ้นสภาพการเป็นนักศีกษาไปแล้ว ย้ำการกระทำรุนแรงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบัน ส่วนข่าวนักศึกษาร่วมกลุ่มกว่า 80 กว่าตั้งองค์กรเถื่อนนั้น ทางสถาบันไม่มีข้อมูล ทางตำรวจยังไม่ได้ให้รายชื่อมา หากตรวจสอบพบว่าเป็นนักศึกษาของสถาบัน ยืนยันตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.นายเสถียร ธัญญศรีรัตน์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พร้อมด้วยผู้บริหารสถาบันฯ แถลงกรณีกลุ่มคนที่อ้างว่า เป็นนักศึกษาจากสถาบันฯก่อเหตุ ยิงนายธนสรณ์ หรือ หยอด ห้องสวัสดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายและ น.ส.ศิรดา หรือ ครูเจี๊ยบ สินประเสริฐ อายุ 45 ปี ครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ ระดับชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ เสียชีวิตนั้น ทางสถาบันฯ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของครูเจี๊ยบและน้องหยอดเป็นอย่างยิ่ง โดยล่าสุดได้มีการจับผู้ต้องสงสัยและมีชื่อของสถาบันฯเข้าไปเกี่ยวข้อง และจากการตรวจสอบรายชื่อทั้งหมด เป็นนักศึกษาที่พ้นสภาพไปแล้ว ปัจจุบันไม่ได้มีสถานะเป็นนักศึกษาของสถาบันฯ
ทั้งนี้ สถาบันฯมีนักศึกษาอยู่ประมาณ 1,300 คน กว่า 1,000 คน ทำงาน และมาเรียนเสาร์-อาทิตย์ ที่เหลืออีกกว่า 200 คน จะเป็นปริญญาโท และเอก เหลือนักศึกษาภาคปกติเพียง 100 คน
"การเรียนการสอนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ค่อนข้างเข้มข้น สถาบันฯมีชื่อเสียงมากว่า 90 ปี นักศึกษาสายอาชีพก็อยากจะเข้าเรียนและจบที่ปทุมวัน โดยเพิ่งประกาศรายชื่อนักศึกษาที่พ้นสภาพไปแล้ว เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมากว่า 140 คน ส่วนใหญ่ที่พ้นสภาพไปเพราะมาขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา และไม่ได้มาเรียน แต่ใช้ชื่อปทุมวันออกไปแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในทางเสียหาย ดังนั้น ขอแถลงว่า การกระทำของผู้ต้องสงสัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันทั้งสิ้น โดยเด็กปัจจุบันสร้างชื่อเสียง มีการแข่งขันได้รับรางวัลชนะเลิศมากมาย สภาพแวดล้อมภายในสถาบันเงียบสงบเพราะเด็กอยู่ในห้องเรียน ปทุมวันเป็นสถาบันอันทรงเกียรติ มีชื่อเสียงมานาน มีระบบการรักษาความปลอดภัย ทั้งภายใน ภายนอก มีการประสานความร่วมมือกับสน.ปทุมวัน มีการเรียนการสอนเข้มข้น ถึงเข้ามาได้แต่จบยากปีนักศึกษาจบเพียงปีละ 500 คน ดังนั้น จึงขอปฏิเสธว่าข่าวความรุ่นแรงที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับสถาบัน" อธิการบดีฯ กล่าว
อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางสถาบันฯมีการทำความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สามารถเข้าตรวจค้นได้ 24 ชั่วโมง หากมีผู้ต้องสงสัยเข้ามาแอบแฝงสามารถดำเนินคดีได้ทันที ส่วนการรับน้องรุนแรง ทางสถาบันจะไม่ให้มีการจัดกิจกรรมดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาติจากสถาบันฯ แต่ถ้ามีการแอบไปรับน้องแล้วเกิดความรุนแรงขึ้น จะลงโทษพักการเรียน ซึ่งก็ได้มีการดำเนินการมาแล้ว โดยมีโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก ส่วนที่มีข่าวว่า มีอาจารย์เข้าไปค้ำประกันผู้ต้องหากรณีก่อเหตุยิงในงานแต่งเมื่อปีที่ผ่านมานั้น ยังไม่เห็นรายชื่ออาจารย์ไปเกี่ยวข้อง เพราะอาจารย์จะทำอะไรต้องได้รับอนุมัติจากอธิการบดี
"อุเทนฯ กับปทุมวัน พยายามหามาตรการป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่ส่วนใหญ่เหตุการณ์ไปเกิดขึ้นภายนอก และบางครั้งมีการอ้างโปรไฟล์ปทุมวัน ก็ได้มีการตรวจสอบ รวมถึงมีการตั้งกลุ่มป้องกันเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ แต่หากเหตุการณ์ไปเกิดไกลจากนอกพื้นที่ ก็ดูได้ยาก ทั้งนี้ ในสถาบันฯ ก็จะมีกลุ่มนักศึกษาที่ตั้งใจเรียน ถึงช่วงเวลาเลิกเรียน อาจารย์ก็จะมาดูแลส่งนักศึกษากลับบ้าน แจ้งสถานีรถไฟฟ้า ให้มีอาจารย์ที่ปรึกษาค่อยสอดส่อง ตั้งกลุ่มไลน์ร่วมกับผู้ปกครอง ส่วนหนักใจหรือไม่เด็กที่พ้นสภาพไปแล้ว เอาชื่อสถาบันไป ขอบอกว่าหนักใจมาก เราตรวจสอบไม่เจอ ทำให้สถาบันตกเป็นจำเลยสังคม บางคนพ้นสภาพไปแล้วแต่ผู้ปกครอง ก็ยังเข้าใจว่า เด็กเรียนอยู่ จึงได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง นักศึกษาที่เคยเข้ามา แล้วพ้นสภาพไป ศิษย์เก่าก็ไม่ใช่ ศิษย์ปัจจุบันก็ไม่ใช่ ผมก็คงเข้าไปควบคุมไม่ได้ ต้องให้นิติกรดำเนินการ หากมีการอ้างชื่อ ก็ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินคดีตามขั้นตอน" อธิการบดีฯ กล่าว
ด้านนายวีนัส ทัดเนียม รองอธิการบดี กล่าวว่า ทางปทุมวันได้ส่งรายชื่อนักศึกษาที่พ้นสภาพทั้ง 140 คนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และจากการตรวจสอบผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย เข้ามาเรียนปีการศึกษา 2565 ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษา แต่ไม่ได้ลงทะเบียนเรียน จึงให้พ้นสภาพนักศึกษาไป อย่างไรก็ตามการรับนักศึกษาปทุมวันชั้นปีที่1 ทุกคนจะต้องมีการตรวจสอบประวัติลายนิ้วมือก่อนเข้าเรียน หากพบว่า มีการทำความผิดมาก่อนก็จะไม่รับเข้าเรียน ทั้งนี้การตรวจสอบดังกล่าว เพื่อบันทึกประวัติไว้ที่สถานีตำรวจ หากมีการทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบได้ทันที และหากมีการกระทำความผิดก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย รวมถึงยังมีมาตรการว่า กรณีทำผิดวินัย จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากพบว่า มีมูลก็จะต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการที่สถาบันกำหนด เช่น พักการเรียน 1 ปี หรือมากกว่านั้นแล้วแต่ผลการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากผู้ต้องหาทั้ง8 รายซึ่งพ้นภาพไปแล้ว ทราบว่ามีการร่วมกลุ่มของนักศึกษาทั้งเก่าและปัจจุบัน นายวีนัส กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคงต้องรอข้อมูล ซึ่งทางสถาบันได้มีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ตลอด ขณะเดียวกันสถาบันฯ ก็ยินดีให้ข้อมูลที่ตำรวจร้องขอมา ส่วนนักศึกษาที่มีการร่วมกลุ่มกว่า 80 กว่าคนนั้น สถาบันไม่มีข้อมูล ทางตำรวจยังไม่ได้ให้รายชื่อมา แต่หากพบว่า เป็นนักศึกษาของสถาบัน ก็ต้องตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอน
"เรื่องนี้เกิดขึ้นภายนอก สถาบันไม่ทราบชื่อ แม้กระทั่งผู้ต้องหาทั้ง 8 คน สถาบันฯก็เพิ่งมาทราบชื่อภายหลัง เพราะเราไม่ได้เป็นหน่วยสืบสวน สถาบันทำหน้าที่จัดการเรียนการสอน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดข้างนอก นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ของสถาบัน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ กำกับดูแลโดยกระทรวงการอุดทศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ผลิตคนที่มีคุณธรรม คนดีไปทำงาน ขณะนี้ประเทศชาติขาดวิศวะเป็นแสนอัตรา เด็กปทุมวัน ก่อนจบมีบริษัทมารอรับเข้าทำงาน ส่วนผู้ที่ไปก่อเหตุ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบัน สถาบันไม่ทราบอะไรเลย แต่เด็กปัจจุบันสถาบันจะมีการควบคุมมาตรฐาน เป็นวิศวกรในภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก" รองอธิการบดีกล่าว