ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆคุมตัว 8 ผู้ต้องหาคดียิง “ครูเจี๊ยบ-เด็กอุเทนถวาย” ไปฝากขังที่ศาล ด้าน ผบก.น.5 เผย รูปเฟืองที่พบบนตัวผู้ต้องหา เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์การล่าแต้ม
จากกรณีตำรวจจับกุม 8 ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง นายธนสรณ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักเรียนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุการณ์นี้มี น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์จากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ถูกลูกหลงเสียชีวิต เหตุเกิดที่ย่านเขตคลองเตยตามที่เสนอข่าวไปนั้น
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ สน. ทุ่งมหาเมฆ พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เดินทางมาเพื่อ ควบคุมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆรวมถึงสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม รวมถึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือ “ซ่องโจร” ฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถจับตัวมือยิงและคนขับรถจักรยานยนต์ ที่พาหลบหนีได้ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนของผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหา ได้นำอาหารมาให้และได้เดินทางกลับทันทีไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างได้
ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาบางส่วนให้การเป็นประโยชน์ บางส่วนไม่ยอมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามรวบรวมหลักฐานจากศิษย์เก่ารุ่นพี่ร่วมสถาบันในการสืบทราบข้อมูลพบว่า เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายบุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมในขบวนการนี้ ซึ่งขณะนี้ยังติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุมือยิงและคนขับรถจักรยานยนต์ โดยคาดว่า จะได้ตัวในเร็วๆ นี้
ส่วนประเด็นเรื่องสัญลักษณ์รูปเฟืองที่ถูกตีตราด้วยเหล็กร้อนและประทับตราตามร่างกาย ซึ่งพบ 4 ใน 8 ผู้ต้องหา โดยสัญลักษณ์ดังกล่าว เชื่อว่า เป็นการล่าแต้มในการกระทำความผิด แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ฟันธง ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าทำด้วยสมัครใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะมีการเข้าตรวจค้นเซฟเฮ้าที่อื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากซอยวงศ์สว่าง 19 ส่วนเส้นทางการเงินที่มีผู้สันบสนุนโอนเงินเข้ามา ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นใคร
ส่วนกรณีที่เพื่อนของผู้ต้องหาอ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับแพะมา ทางด้านพล.ต.ต.วิทวัฒน์ กล่าวว่า มีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหามาได้ จึงได้ขอหมายศาลเพื่อออกหมายจับ และยังมีความเห็นว่าเพื่อนของผู้ต้องหาก็อาจจะเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้เช่นเดียวกัน แต่ยังต้องดูรายละเอียดทางคดีเพิ่มเติมก่อนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่