xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ย้ำทีม Care D+ มีทดสอบวัดสกิลหลังอบรม เคลียร์ใจ "คนไข้-ผู้ป่วย" พร้อมเปิด Line OA ให้ปรึกษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.แจงอบรมทีม Care D+ มีทดสอบความเข้าใจการสื่อสาร บางส่วนอาจจัดแบบออนไซต์เจอสถานการณ์จริง บุคลากรด่านหน้าหากเจอปัญหา ปรึกษาผ่าน Line OA ได้

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ดร.สุดคนึง ฤทธิ์ฤาชัย ผอ.วิทยาลัยนักบริหารสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงหลักสูตรการเรียนการสอนโครงการขับเคลื่อนการสื่อสารสาธารณะและสังคม (Care D+) ว่า ที่ผ่านมา สธ.มีการยกระดับการสื่อสารประชาสัมพันธ์กับผู้มารับบริการ ทั้งผู้ป่วยและญาติ แต่ไม่ได้เป็นหลักสูตรที่ทันสมัย เหมาะในยุคปัจจุบัน เราจึงปรับหลักสูตรให้เข้ากับยุคสมัย เป็นการเรียนที่สะดวกมีทั้งออนไลน์ และออนไซต์ในบางพื้นที่เฉพาะ ทำให้เข้าถึงง่าย อบรมเรียนที่ไหนเมื่อไรก็ได้ และยังยกระดับตามปัญหาที่พบในปัจจุบัน เช่น ปัญหาการร้องเรียนต่างๆ สื่อสารอย่างไรให้เกิดความเข้าใจ ไม่เกิดความขัดแย้งเพิ่มขึ้น การดูแลจนถึงระยะท้ายของชีวิต มีอยู่ 7 บทเรียนเพื่อสื่อสารในบริบทที่แตกต่างกันออกไป เน้นสื่อสารที่ทำให้เกิดความเข้าอกเข้าใจระหว่างมารับบริการ ตั้งแต่มาถึงและรักษาจนหาย หรือกลุ่มผู้ป่วยระยะสุดท้ายก็จะมีการสื่อสารดูแลให้กำลังใจครอบคลุมทั้งหมด หลักสูตรนี้ได้รับความร่วมมือกับทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาร่วมพัฒนาและอบรม หวังว่าเมื่อจบหลักสูตรบุคลากรทุกคนจะมีความเข้าใจในการสื่อสาร มีทักษะนำไปใช้บริการประชาชนเป็นญาติเฉพาะกิจ เป็นมิตรถาวร


ดร.สุดคนึงกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สนใจลงทะเบียนอบรมเป็นนักประสานใจ 10,550 คน จาก รพ.สังกัด สธ. ทุกระดับ ทั้ง รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป รพ.ชุมชน และ รพ.สต. โดยภายในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ จะมีบุคลากรชุดแรกที่ผ่านการอบรมหลักสูตรจำนวน 1 พันคน เพื่อประจำการใน รพ.สังกัด สธ. จากนั้นภายในวันที่ 30 เม.ย. 2567 จะมี 1 หมื่นคน และจะขับเคลื่อนต่อเนื่องให้มีการสมัครและอบรมเรื่อยๆ จนปิดโครงการในเดือนมิ.ย. 2567 เมื่อสิ้นสุดโครงการก็จะมีการประเมินและพิจารณาว่าจะขยายผลโครงการอย่างไรต่อไป การสมัครจะให้เขตสุขภาพเป็นศูนย์กลาง ให้ รพ.แต่ละแห่งส่งบุคลากรเข้าอบรม ขณะนี้ก็ยังส่งบุคลากรมาเพิ่มเติมได้ โดยติดต่อไปยังเขตสุขภาพในพื้นที่ตนเอง สำหรับการวัดผล เมื่อจบทุกหน่วยการเรียน จะให้ทำแบบทดสอบว่ามีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะนำไปใช้จริง เมื่อวัดผลผ่านเกณฑ์ก็จะได้รับหนังสือสำคัญว่าผ่านการอบรม และจะมีการติดตามโครงการ โดยพิจารณาจากจำนวนข้อร้องเรียนลดลงจากเดิมหรือไม่ รวมทั้งพิจารณาจากอัตราความพึงพอใจของผู้รับบริการ เป็นต้น

“จริงๆบุคลากรเรามีทักษะอยู่แล้ว การอบรมก็จะเป็นลักษณะทั้ง Upskill และ Reskill และบาง รพ.จะจัดทีมออนไซต์ไปอบรมด้วย ก็จะเหมือนได้ทดสอบสถานการณ์จริง หรือหากอบรมไปแล้ว บุคลากรหน้างานที่ทำงานตรงนี้หากมีข้อสงสัย ในระบบยังมี Line OA เพื่อให้สอบถามเข้ามาด้วย ซึ่งเราจะมีแอดมินคอยตอบให้ตลอด สิ่งสำคัญหลักสูตรยังแนะนำในเรื่องการรับฟัง การฟังอย่างเข้าใจ เพื่อสื่อสารออกไปอย่างเหมาะสมได้” ดร.สุดคนึงกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น