xs
xsm
sm
md
lg

"ชลน่าน" หารือ 3 ชมรม สธ. ลุยทำแผน 13 Quick Win มั่นใจต้นปี 68 ขยายบัตร ปชช.ใบเดียวทุกเขต ไม่มีปัญหาเชื่อมโยง รพ.สต.ถ่ายโอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ชลน่าน" หารือ 3 ชมรม สธ. จัดทำแผนขับเคลื่อน 13 Quick Win โดยเฉพาะบัตรประชาชนใบเดียว ต้องให้ประชาชนสะดวกสบาย ไม่แออัด มั่นใจต้นปี 68 ทำได้ครบทุกเขตสุขภาพ หลังประกาศนำร่อง 4 เขตใน 100 วันแรก ยัน รพ.สต.ถ่ายโอนไปท้องถิ่นไม่มีปัญหาเชื่อมโยง พร้อมช่วยดูแลชมรม ออกระเบียบกลาง เหตุไม่มีกฎหมายรองรับ

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมจัดทำแผนขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุข ร่วมกับ 3 ชมรมด้านสาธารณสุข คือ ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน โดย นพ.ชลน่านให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ทั้ง 3 ชมรมมาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสที่ตนได้รับตำแหน่ง รมว.สธ. และหารือการจัดทำแผนขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุข สิ่งที่ทางชมรมยกขึ้นมาเป็นประเด็นคือ การดำเนินกิจกรรมของชมรม เพื่อสให้ส่งเสริมการสนับสนุนการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ ให้มีความแน่นแฟ้น มั่นคง เป็นเอกภาพ ตอบสนองต่อเชิงนโยบายและดูแลเรื่องสวัสดิภาพสวัสดิการของผู้ปฏิบัติงาน ในการรวมตัวกันก็สามารถส่งผลถึงการทำงานของกระทรวงฯ ได้ดี ทางส่วนกลางให้แนวทางไปว่า เราสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการรวมตัวรวมกลุ่มเป็นองค์กรขึ้นมารองรับ โดยเฉพาะวงการแพทย์และสาธารณสุขเรามีหลายวิชาชีพ

"แต่ละวิชาชีพถ้ามีความสมัครสมานสามัคคี รวมกลุ่มกันได้ จะทำให้การทำหน้าที่ของแต่ละวิชาชีพเป็นไปได้ด้วยดี เข้มแข็ง มีข้อเสนอดีๆ ที่เป็นเอกภาพเหมาะกับประเด็นงาน ส่วนหนึ่งที่เราให้แนวทางไป เนื่องจากแต่ละชมรมไม่มีระเบียบกฎหมายรองรับ เป้นการจัดตั้งขึ้นเสมือนกับอาศัยความร่วมมือและออกข้อระเบียบของตัวเองในการที่จะทำหน้าที่ ไม่เหมือนสมาคมและมูลนิธิที่มีกฎหมายรองรับ กระทรวงฯ ผมและท่านปลัดก็มีแนวทางอยากจะสนับสนุนช่วยเหลือ จะเข้าไปช่วยดูให้ว่าจะเข้าไปสนับสนุนกลไกเหล่านี้อย่างไร เช่น มีระเบียบหรือข้อบังคับกลางที่จะช่วยสนับสนุนให้ชมรมเหล่านี้ทำงานภายใต้การกำกับดูแล สนับสนุนจากส่วนกลางให้ดีที่สุด เพราะเมื่อมีผลกระทบอะไรต้องมีผู้รับผิดชอบ กระทรวงฯ ก็ยินดีเข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบร่วมด้วย" นพ.ชลน่านกล่าว


นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า ส่วนการจัดทำแผนวันนี้ เป็นแผนขับเคลื่อนตามนโยบาย 13 นโยบายที่จะรองรับ 30 บาทพลัส ที่เราประกาศ 100 วัน Quick Win ก็จะมีลงสู่แผนการปฏิบัติทั้ง 13 เรื่อง ถ้าทำแผนเสร็จก็จะนำเสนอแผนเข้าสู่การขับเคลื่อนประกาศ โดยวันที่ 22 ก.ย.จะเป็นวันที่ตนประกาศกับผู้ปฏิบัติงานทั้งหมด 5 แสนกว่าคนของ สธ. จากการหารือกับทั้ง 3 ชมรม เราเน้นเป็นพิเศษทุกเรื่อง เพราะเป็น Quick Win ส่วนจะเกี่ยวข้องโดยตรงหรือไม่ ขึ้นกับประเด็นที่กำหนด เช่น เรื่องบริการปฐมภูมิ ดิจิทัลสุขภาพ เกี่ยวเนื่องต้องเน้น เพราะจะเป็นโครงข่าย หรือ One ID Card Smart Hospital เกี่ยวข้องโดยตรงก็จะเน้นย้ำให้รับรู้รับทราบนโยบาย ต่อไปประชาชนต้องได้รับบริการที่สะดวกสบาย ไม่แออัด สามารถนัดหมายได้ ก็ใช้บัตรประชาชนใบเดียวเข้าถึงบริการได้ ซึ่ง รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป รพ.ชุมชน และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในฐานะผู้กำกับ เราคาดหวังขนาดว่า One Province One Hospital 1 จังหวัด เสมือนมี 1 รพ. ไม่ได้จับ รพ.ทุกที่มารวมกัน ทุกที่ทำหน้าที่ตนเอง แต่ใช้กลไกการบริหารเชื่อมโยง ให้ประชาชนรู้สึกว่า นี่คือ รพ.ของประชาชน เหมือนมี 1 รพ. มาตรฐาน การดูแล การสนับสนุน เอื้อต่อกัน มีความมั่นใจว่า แม้จะมาตรงนี้ แพทย์ก็คือแพทย์ที่อยู่ในจังหวัดทั้งหมด

ถามว่าบัตรประชาชนใบเดียว มีข้อเสนอหรือข้อกังวลอะไรจากทางชมรมหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เท่าที่ฟัง เนื่องจากเราประกาศนำร่องก่อนใน 100 วัน ใน 4 เขตสุขภาพ คือ เขตสุขภาพที่ 1 , 4 ,9 และ 12 ซึ่งเขตสุขภาพอื่นเท่าที่ฟังยังไม่มีข้อกังวลอะไร เพียงแต่เขาก็อยากทำ ตนก็ให้แนวทางว่า ถ้าเราประกาศนำร่อง 4 เขตสุขภาพ การประเมินผลลัพธ์ที่เราคาดหวัง เพราะการประกาศ Quick Win งสำคัญที่สุดนอกจากระบวนการทำหน้าที่แล้ว ผลลัพธ์ที่คาดหวังเห็นผลทันตาเกิดขึ้นจริง ก็จะนำสิ่งนั้นมาประเมินและขยายต่อสำหรับเขตที่พร้อมรองรับ จริงๆ มีหลายเขตเสนอมา แต่เราเลือก 4 เขตก่อน เช่น เขต 8 ก็เสนออยากจะทำ แต่ขอเอา 4 เขตนี้ก่อน


ถามต่อว่าอีก 8-9 เขตสุขภาพจะกำหนดว่าควรเริ่มบัตรประชาชนใบเดียวเมื่อไร หรือขึ้นกับความพร้อม นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราจะประเมินบนความพร้อมของผู้บริหารระดับเขต เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติระดับเขตที่เสนอตัวเข้ามา อย่าง 4 เขตคือเสนอตัวเข้ามา เราก็ไปดูและคัดเลือกมา มั่นใจว่าไม่เกินต้นปี 2568 เราน่าจะประกาศได้ครบทั้งหมด ปี 2567 พยายามจะเร่งให้ครบทั้งหมด

ถามต่อว่าจังหวัดที่มีการถ่ายโอน รพ.สต.ไปแล้ว การใช้บัตรประชาชใบเดียวเชื่อมต่อกันจะมีปัญหาหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่มีปัญหา ใน รพ.สต.เป็นสถานบริการระดับปฐมภูมิ เรามุ่งเน้นยกระดับปฐมภูมิให้มีจุดเชื่อมโยง โดยเฉพาะเพิ่มศักยภาพ ในยุคนี้ระบบไอทีดี เป็นดิจิทัล เราใช้กลไกตรงนี้สร้างความเข้มแข็งปฐมภูมิในการบริการชุมชน การเชื่อมโยงระหว่างแพทย์ของเรา เราใช้เทคโนโลยีเทเลเมดิซีนเข้าไป เพราะฉะนั้น ใน รพ.สต.ก็จะมีแพทย์คอยให้การดูแล ได้รับยาจาก อสม. ก็จะเป็นกลไกเชื่อมโยงกัน เราแก้ปัญหาตรงนี้ โดยทำให้เป็นเอกภาพเชิงนโยบาย โดยมีคณะกรรมการพัฒนาสุขภาพแห่งชาติขึ้นมารองรับ พูดคุยเชื่อมโยงกัน ไม่เป็นปัญหาเรื่องของสังกัด จะต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น