ปลัด สธ.เร่งเคลียร์ตำแหน่งว่างบรรจุข้าราชการให้เสร็จใน ก.ย.หรือช้าสุด พ.ย. ก่อนหารือ ก.พ.เพิ่ม ปมค้างบรรจุข้าราชการโควิดรอบสองกว่า 3 หมื่นอัตรา แจงบุคลากรไม่ขาดแคลนเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังต้องการเพิ่ม และกระจายตัวเหมาะสม พบเขตสุขภาพที่ 8 อีสานตอนบน ขาดแพทย์มากสุด พร้อมต้องแก้ภาระงานให้เหมาะสม
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงอัตรากำลังบุคลากรสาธารณสุขตอนหนึ่ง ในการปาฐกถาพิเศษ “ทศวรรษที่ 2 ยกระดับศักยภาพบริการสู่ความมั่นคงด้านสุขภาพ” ภายในงานประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้การพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan Sharing) ปีงบประมาณ 2566 เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า หากพูดถึงบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนหรือไม่นั้น สิ่งสำคัญต้องกระจายแพทย์ให้เหมาะสม ข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า เขตสุขภาพที่ 8 ขาดแพทย์มากที่สุด แม้จะกระจายเท่าไรก็ตาม ส่วนเขตที่ได้บุคลากรทางการแพทย์เยอะสุด คือ เขต 13 กทม.และปริมณฑล สาเหตุเพราะการกระจายตัวเป็นไปตามระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ดังนั้น โจทย์การกระจายบุคลากรจะต้องทำอย่างไรให้มีการ Sharing อย่างเหมาะสม เพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขให้สอดคล้องกัน โดยต้องมาคิดว่า จะทำอย่างไรให้น้องๆไปอยู่เขต 8 ไปอยู่แม่ฮ่องสอน ไปอยู่บึงกาฬมากขึ้น
นพ.โอภาส กล่าวว่า เมื่อโจทย์เป็นแบบนี้ ระบบสาธารณสุขจะทำอย่างไร หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า รพ.ขับเคลื่อนด้วยสตาฟฟ์ ก็คงจะเป็นอย่างนั้น ซึ่งหากดูข้อมูลภาพรวมการเพิ่มขึ้นของแพทย์นั้น หากดูจากข้อมูลมีแพทย์เพิ่มขึ้นปีละ 1,000 คน โดย สธ.ดูแลประชาชน 85% ของประเทศ โดย 5 ปีที่ผ่านมา มีแพทย์เพิ่มขึ้นจาก 7,400 คน เป็น 11,000 คน เพิ่มขึ้นเป็น 50% โดยเพิ่มมากที่สุดเป็น รพ.ชุมชน ตามด้วย รพ.ศูนย์ และ รพ.ทั่วไป จริงๆ เรื่องบุคลากรไม่ใช่แค่แพทย์ แต่รวมทุกวิชาชีพ ซึ่งในระบบปัจจุบันเราไม่ได้ขาดแคลนเหมือนเก่า แต่ยังต้องการเพิ่มขึ้น และต้องกระจายตัวให้เหมาะสม ที่สำคัญต้องให้พวกเขาอยู่ได้ จึงต้องมีทั้งเรื่องค่าตอบแทน สวัสดิการ ความก้าวหน้าในสายวิชาชีพ และภาระงาน
“เรากำลังแก้ทุกโจทย์ และสุดท้าย คือ ภาระงาน จะทำอย่างไรให้ภาระงานเกิดความเหมาะสมและเป็นธรรม ซึ่งการยกระดับรพ.ต่างๆ และต้องให้ความสำคัญกับบุคลากรด้วย บุคลากรของเราต้องไปด้วยกันได้ กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับทุกสาขาวิชาชีพ ซึ่งมีประมาณ 63 สาขาวิชาชีพโดยสำคัญ” ปลัด สธ.กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวถึงกรณีการเพิ่มอัตรากำลังรองรับการลงทุนและพัฒนาเพื่อยกระดับ รพ. ว่า อัตรากำลังต้องเพิ่มขึ้น ซึ่งเรายังค้างเรื่องการบรรจุโควิด-19 รอบสองอีกประมาณ 3 หมื่นอัตรา ก็ต้องหารือกับทาง ก.พ.เป็นอันดับถัดไป โดยที่ผ่านมา ก.พ.ให้ สธ.ไปจัดสรรเรื่องตำแหน่งว่างก่อน ตั้งเป้าว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ก.ย.นี้ อย่างช้าก็ประมาณ พ.ย. 2566 ซึ่งหากเคลียร์ตำแหน่งว่างแล้วเสร็จก็จะหารือกับ ก.พ.อีกครั้ง ว่า ยังมีตำแหน่งอะไรที่เรามีความจำเป็นต้องการเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การบรรจุข้าราชการโควิดรอบสอง 3 หมื่นกว่าอัตราจะต้องลดลงหลังเคลียร์ตำแหน่งว่างภายในหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า ต้องหารือกันก่อน เบื้องต้นรอให้การจัดสรรตำแหน่งว่างแล้วเสร็จและจะมีการหารือร่วมกันต่อไป