WHO เผยอายุขัยเฉลี่ยคนทั่วโลกเพิ่มขึ้นช่วง 75 ปีที่ผ่านมา จาก 46 ปี เป็น 71 ปี เดินหน้าร่วม สธ.ไทยเน้นแก้โรคไม่ติดต่อ แรงงานข้ามชาติ อุบัติเหตุทางถนน ภาวะฉุกเฉิน ผสานแพลตฟอร์มดิจิทัล ชูแนวคิดสุขภาพดีถ้วนหน้า
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดกิจกรรมวันอนามัยโลก (World Health Day) ประจำปี 2566 ครบรอบ 75 ปี องค์การอนามัยโลก (WHO) ว่า ไทยเป็นสมาชิก WHO ให้ความร่วมมือดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไทยบรรลุเป้าหมายด้านสาธารณสุขระดับโลก เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เช่น การสร้างระบบสาธารณสุขมูลฐาน กำจัดโรคเรื้อน โปลิโอ และยุติการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิสจากแม่สู่ลูก การรับมือโควิด 19 ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบรับมือโรคติดต่อและโรคอุบัติใหม่ ปัจจุบันความร่วมมือระหว่างไทยกับ WHO ได้ดำเนินแผนยุทธศาสตร์มาจนถึงฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2565 – 2569) เน้นด้านโรคไม่ติดต่อ สุขภาพแรงงานข้ามชาติ ความปลอดภัยบนท้องถนน ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข การผสานแพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัลกับระบบข้อมูลสุขภาพ และยกระดับความเป็นผู้นำในด้านสุขภาพโลก สำหรับวันที่ 7 เม.ย.เป็นวันอนามัยโลก ปีนี้ครบรอบ 75 ปีก่อตั้ง WHO สธ.จึงจัดงานวันอนามัยโลก ภายใต้แนวคิด “Health for All” หรือ “สุขภาพดีถ้วนหน้า” จะเห็นได้ว่าเราดูแลประชาชนทุกคน ประชากรทุกชาติที่อยู่ในประเทศไทย ไม่มีแบ่งแยก
ด้าน ดร. จอส ฟอนเดลาร์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า เป้าหมายของ WHO คือ การให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพดี ช่วง 75 ปีที่ผ่านมา อายุขัยเฉลี่ยของประชากรทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 46 ปี เป็น 71 ปีในปัจจุบัน ความท้าทายใหม่ๆ มีเพิ่มขึ้นอีกมาก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนน้ำ ประชากรย้ายถิ่นฐาน หรือปัญหามลพิษ ทำให้อัตราของโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มมากขึ้น ปัญหาการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไปทำให้เชื้อดื้อยามากขึ้น อัตราการเกิดโรคมะเร็ง เบาหวาน และความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดจากการอยู่อาศัยในพื้นที่แออัดและการแข่งขัน อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและการเจ็บป่วยทางจิตได้ ทั้งนี้ ไทยเป็นตัวอย่างที่ดีมีการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับพัฒนาระบบดูแลสุขภาพ เช่น สาธารณสุขมูลฐาน และระบบหลักประกันสุขภาพฯ มอบผลประโยชน์ให้กับทุกคนในประเทศ เป็นต้นแบบประเทศอื่นๆ โดยไทยและ WHO จะยังคงเป็นพันธมิตรขับเคลื่อนงานสู่เป้าหมายสุขภาพดีถ้วนหน้าต่อไป