วันนี้ (3 มี.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงผลสำเร็จความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร และ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น Japan International Cooperation Agency: JICA) โดยมี นายทาคูโระ ทาซากะ (Mr. TakuroTasaka) อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ นายซุซุกิ คาซุยะ (Mr. Suzuki Kazuya) หัวหน้าผู้แทนองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) สำนักงานประเทศไทย ร่วมแถลงการดำเนินงาน เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 66 ณ ห้องกรรณิกา ชั้น 2 โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพ เขตบางรัก
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวขอบคุณ JICA ในความร่วมมือในการจัดทำแผนแม่บทกรุงเทพมหานครว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2556-2566 เป็นระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี 2552 เพื่อการแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกรุงเทพมหานคร ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นก้าวที่นำไปสู่ความร่วมมือทางวิชาการอย่างเต็มรูปแบบและมีการทำงานกันอย่างเข้มข้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 4 ด้าน คือ 1. การจัดการองค์กรเพื่อการดำเนินงานตามแผนแม่บทกรุงเทพมหานครฯ ที่มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล 2. การเพิ่มศักยภาพในการวางแผนและการดำเนินงานสำหรับกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวภายใต้แผนแม่บทกรุงเทพมหานครฯ ที่มีความสำคัญ 3. การพัฒนาศักยภาพในการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทกรุงเทพมหานครฯ และ 4. การจัดทำแผนแม่บทกรุงเทพมหานครฯ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ในช่วงการดำเนินงานต่อไป คือ ปี พ.ศ. 2564-2573 กรุงเทพมหานครได้ดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพองค์กรฯ ร่วมกับองค์การ JICA ระยะเวลา 5 ปี โดยองค์การ JICA ได้ให้การสนับสนุนทางวิชาการ โดยส่งผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่น จำนวน 2 ท่าน ประจำที่สำนักสิ่งแวดล้อม และฝึกอบรมให้แก่ข้าราชการกรุงเทพมหานครในหลักสูตรต่างๆ การส่งเสริมความร่วมมือของกรุงเทพมหานครกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการต่างๆ ซึ่งส่งผลให้การลดก๊าซเรือนกระจกในกรุงเทพมหานครเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตลอดจนสนับสนุนการจัดทำแผนแม่บทกรุงเทพมหานครฯ ฉบับใหม่ พ.ศ. 2564-2573 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและสอดคล้องกับความตกลงปารีส (Paris Agreement) ในการดำเนินงานระดับประเทศ ทั้งนี้โครงการฯ ได้สิ้นสุดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ผลความสำเร็จที่สำคัญมากๆ ของความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานครและองค์การ JICA คือ การเสริมสร้างบุคลากรของกรุงเทพมหานครให้สามารถจัดทำแผนแม่บทกรุงเทพมหานครว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จำนวน 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 ในปี พ.ศ. 2556-2566 และฉบับปัจจุบัน พ.ศ. 2564-2573 รวมถึงความสำเร็จของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแผนแม่บทกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งทำได้อย่างดียิ่ง โดยเฉพาะฉบับที่ 1 ระยะสิ้นสุดแผน 2563 กรุงเทพมหานครปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมเท่ากับ 40.75 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงจากการดำเนินงานปกติ (Business As Usual: BAU) 13 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งมากกว่าเป้าหมายที่กำหนด (แผนแม่บทกรุงเทพมหานครฯ พ.ศ. 2556-2566) จริง ๆ แล้ว กรุงเทพมหานครกำหนดเป้าหมายไว้ที่ 13% หรือ 7.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า แต่กรุงเทพมหานครสามารถทำให้ลดถึงได้ 24% หรือ 13 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยมีเป้าหมายลดลงให้เหลือ 46.44 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า แต่สามารถลดลงได้ถึง 40.75 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ทำให้เห็นว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี สิ่งที่ทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จได้นั้นมาจากภาคการขนส่งที่ยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการใช้พลังงานทางเลือก ซึ่งส่งผลให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจก มาจากความร่วมมือที่ทาง JICA ช่วยส่งเสริมบุคลากรให้กับกรุงเทพมหานคร ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร กับ JICA ที่ได้มีความร่วมมืออย่างจริงจัง และได้ผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งหวังว่าความสำเร็จจากการดำเนินการครั้งนี้จะนำมาสู่ความร่วมมือกันทุกภาคส่วนมากขึ้น การดำเนินการขับเคลื่อนแผนแม่บทฯ ฉบับใหม่ 2564-2573 กรุงเทพมหานครจะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่ และหวังว่าในอนาคตจะมีความร่วมมือกับ JICA ในด้านนี้ และด้านอื่นๆ ต่อไป
ทั้งนี้ JICA ได้กล่าวถึงการดำเนินงานโครงการร่วมกับกรุงเทพมหานครในปัจจุบันและอนาคต เช่น การสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 และการแก้ปัญหาจราจรติดขัด ซึ่งหวังว่าจะมีความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครในด้านอื่นเช่นเดียวกัน
ผู้ร่วมงานแถลงผลงาน นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม คณะผู้แทนองค์การ JICA ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักสิ่งแวดล้อม
