บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ติดฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ และผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำมากกว่า 800 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ไข่ไก่สด ส่งเสริมผู้บริโภคเข้าถึงอาหารคุณภาพและปลอดภัย ควบคู่กับการมีส่วนร่วมบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เตรียมแผนปี 2566 นำผลิตภัณฑ์แพลนต์ เบส (Plant-based) ขอรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายสร้างอาหารมั่นคง และดำเนินธุรกิจบนเส้นทางสีเขียวอย่างยั่งยืน
นางสาวอรพรรณ มั่งมีศรี ผู้อำนวยการสำนักระบบมาตรฐานสากล ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการประเมินและได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์จาก อบก. มากกว่า 800 รายการ ทั้งผลิตภัณฑ์หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำที่ได้รับรองฉลากลดโลกร้อน จำนวนกว่า 50 รายการ เช่น อาหารไก่เนื้อ ไก่มีชีวิต เป็ดมีชีวิต สุกรขุน เนื้อไก่สด เนื้อเป็ดสด เนื้อหมูสด และไข่ไก่สด ช่วยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม 2.3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ในปี 2565 มีผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ และฉลากลดโลกร้อนจาก อบก. ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ไข่ไก่สด 25 รายการ เช่น ไข่ไก่เคจฟรี และไข่ไก่สดปลอดสารขนาดบรรจุต่างๆ ซึ่งประมาณการว่าผลิตภัณฑ์ไข่ไก่สดสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 617,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นอกจากนี้ ในปี 2566 บริษัทฯ มีแผนนำผลิตภัณฑ์กลุ่มแพลนต์เบส (Plant-based) เพื่อขอรับฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์จาก อบก. ด้วย
"บริษัทฯ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต ใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป โดยมีการพัฒนากระบวนการผลิตที่คาร์บอนต่ำ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ และการแปรรูปเนื้อสัตว์ เช่น ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สด ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูสด และในปีนี้ จะนำผลิตภัณฑ์แพลนต์เบส เช่น นักเก็ต เนื้อบดจากพืช และข้าวกะเพราเนื้อจากพืช ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขอรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ ” นางสาวอรพรรณกล่าว
ซีพีเอฟให้ความสำคัญต่อการพัฒนาประสิทธิภาพตลอดกระบวนการผลิต ตั้งแต่การวิจัยและการพัฒนาอาหารสัตว์ให้มีโภชนาการที่เหมาะสมกับความต้องการในการเติบโตของแต่ละช่วงวัย การส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิต ทำให้ตลอดกระบวนการผลิตและการได้มาซึ่งวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้เริ่มประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการนำหลักการตามมาตรฐานสากลที่ใช้ในการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle Assessment) ตามมาตรฐานสากล ISO 14040 ISO 14044 และ ISO 14067 มาใช้
ทั้งนี้ ซีพีเอฟ มุ่งมั่นผลิต "ผลิตภัณฑ์สีเขียว" (Green Product) ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ ฉลากลดโลกร้อน ฯลฯ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์สีเขียวจากปัจจุบันอยู่ที่ 34 % เพิ่มเป็น 40% ของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัทภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) ซึ่งการเพิ่มรายได้สีเขียวอย่างต่อเนื่องสะท้อนการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย สู่ผู้บริโภค