“หมอทหาร” ใช้กัญชารักษาคนไข้ฟรี อึ้ง ผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ 25 ปี หลังใช้กัญชาภูมิคุ้มกันดี ตรวจไม่พบเชื้อ แข็งแรง แต่งงาน มีลูกได้ ใช้ชีวิตปกติ ผู้ป่วยติดยาบ้า อาการสงบ ทำงานได้ ไม่เป็นภาระสังคม คนไข้มะเร็งตับ คุณภาพชีวิตดีขึ้น เตรียมขยายผลเก็บตัวอย่างเพิ่มเป็นพื้นฐานเชิงประจักษ์ในการใช้กัญชาทางการแพทย์ต่อไป
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก วรดิถีคลินิกเวชกรรมและกัญชาทางการแพทย์ จ.ปทุมธานี ซึ่งเกิดจาก พล.อ.ต.นพ.ไกรสร วรดิถี ผู้ตั้งปณิธานในการนำกัญชามาช่วยรักษาโรคและเผยแพร่ความรู้การใช้กัญชาเพื่อช่วยคน ซึ่งจากการใช้กัญชาร่วมกับวิธีการแผนปัจจุบัน สามารถช่วยชีวิตภรรยาคือ ศ.พิเศษ ดร.เพียงฤทัย วรดิถี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกและรังไข่ นับแต่นั้นมาก็ได้ให้คำแนะนำการใช้กัญชากับผู้ป่วยโดยสอนให้คนไข้ไปทำใช้เอง แต่บางคนก็ไปแอบซื้อใต้ดินเพราะกัญชาเป็นยาเสพติด และปัจจุบันได้เปิดคลีนิคให้บริการรักษาโรคทั่วไป และโรคที่รักษาด้วยกัญชาทางการแพทย์ กับประชาชนฟรีทั้งชาวชุมชนคลองหลวงและประชาชนทั่วไป ทุกวันพุธ ตั้งแต่เวลา 16.00 – 20.00 น. คลินิกตั้งอยู่ เลขที่ 108/21 หมู่ 7 ซอยนาวี 1 ถนนคลองหลวง ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
พล.อ.ต.นพ.ไกรสร กล่าวว่า เพื่อสร้างหลักฐานเชิงประจักษ์ในการใช้กัญบาทางการแพทย์จึงได้ทำการเก็บประวัติของผู้ป่วยที่เข้าปรึกษารับยากัญชาทางการแพทย์ ได้แก่ กลุ่มอาการนอนไม่หลับเรื้อรัง กลุ่มอาการวิตกกังวล/จิตเวช กลุ่มอาการปวดเรื้อรัง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็ง/เนื้องอก โรคระบบทางเดินปัสสาวะ และ โรคติดเชื้อ HIV (เอดส์) โดยในกระบวนการรักษาได้แนะนำให้ผู้ป่วยใช้ยากัญชาแต่ไม่ทิ้งการรักษาแผนปัจจุบัน พบว่าทั้งหมดไม่มีรายใดมีอาการแย่ลง หรือเกิดผลข้างเคียงหลังใช้ยา จากข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า การรับยากัญชาทางการแพทย์สามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไข้ได้ และเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในกลุ่มโรคดังกล่าว
นพ.ไกรสร กล่าวว่า ในกลุ่มของโรคนอนไม่หลับ เมื่อใช้กัญชาทางการแพทย์ ก็สามารถนอนหลับได้ดีขึ้น ขณะที่ผู้ป่วยยาบ้า เสพยาต่อเนื่องเกือบ 10 ปี ทำงานไม่ได้พูดจาไม่รู้เรื่อง ครอบครัวนำตัวเข้ารับการบำบัด ได้รับยาบำรุงประสาทมารับประทานจนถึงปัจจุบัน 1 ปีก่อน เข้ารับการรักษาเลิกยาเสพติดด้วยการใช้ยากัญชาหยดใต้ลิ้น หลังเลิกยาไม่มีอาการลงแดง สุขภาพดีขึ้น กินข้าวได้ดี เดือนหน้าจะเริ่มทำงานหลังจากที่ทำงานไม่ได้มานาน ขณะที่คนไข้ติดยาบ้าอีกราย เพิ่งเข้ารับการรักษา ยังไม่เห็นผลการรักษาที่ชัดเจน แต่เบื้องต้นช่วยลดความอยากเสพยาได้เมื่อใช้ยากัญชา และสามารถเลิกบุหรี่และเหล้าได้ทันที
สำหรับผู้ป่วยโรคปวดเข่าจากการประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ สร้างความทุกข์ทรมานมาหลายปี หลังใช้ยาหม่องน้ำและยาหม่องชนิดบาล์มผสมกัญชาทาบริเวณหัวเข่าเพื่อบรรเทาอาการปวด และหากปวดมากจนนอนไม่หลับผู้ป่วยจะใช้น้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้น 1 หยดก่อนนอน หลังจากใช้น้ำมันกัญชาชนิดหยดใต้ลิ้น ต่อเนื่องกัน 4 ขวดติดต่อกันเป็นเวลา 9 เดือน พบว่า อาการปวดบริเวณหัวเข่าเบาลง สามารถทำกิจกรรมที่ต้องเดินเยอะๆได้มากขึ้น กรณีปวดจากอุบัติเหตุนี้นพ. ไกรสร ประสบกับตนเองจากการที่ลื่นล้มในห้องน้ำกระดูกคอซีกซ้ายหักไปทับเส้นประสาท หลังผ่าตัดใช้การหยดน้ำมันกัญชาช่วยลดอาการปวดและเกร็ง จนสามารถกลับมาเดินได้
ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดมาตั้งแต่เด็ก หลังใช้กัญชา สามารถเลิกรับประทานยาหอบหืดมาประมาณ 7 ปี จนถึงปัจจุบัน อาการภูมิแพ้ดีขึ้น สามารถรับประทานอาหารทะเลได้ ไม่แพ้ฝุ่นแล้ว และในรายของผู้ป่วยเนื้องอก บริเวณมดลูกและถุงน้ำดีจากการอัลตร้าซาวน์ เมื่อ 1 ปีที่แล้ว ก้อนเนื้อบริเวณมดลูกมีขนาด 3 เซนติเมตร ก้นเนื้อบริเวณถุงน้ำดีมีขนาด 2.5 เซนติเมตร ไม่มีอาการปวดบริเวณท้องน้อย เมื่อตรวจพบผู้ป่วยจึงเริ่มใช้น้ำมันกัญชา ชนิดหยดใต้ลิ้น เข้มข้น 5% หยใต้ลิ้น 1 หยดก่อนนอน ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 8 เดือน เมื่อแพทย์นัดติดตามผลด้วยการอัลตร้าซาวน์อีกครั้งไม่พบก้อนเนื้อบริเวณมดลูกและบริเวณถุงน้ำดีแล้ว
เช่นเดียวกับผู้ป่วยมะเร็งตับอีกราย ที่แพทย์ตรวจพบเมื่อปี 2564 ว่าเป็นมะเร็งตับ ขนาด 11 เซนติเมตร เป็นเคสที่รักษายาก เกินความสามารถ เนื่องจากจุดที่เป็นมะเร็ง อยู่ใกล้หัวใจ ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ ได้รับการรักษาโคยการให้คีโม 8 ครั้ง ไม่ได้ฉายแสง ร่วมกับการใช้ยากัญชา ชนิดหยดใต้ลิ้น ได้รับยากัญชาจากเพื่อน หลังจากใช้ยา ไม่มีอาการข้างเคียง ไม่มีผมร่วง รับประทานอาการได้ปกติ นอนหลับได้ดี 6 เดือนต่อมา อาการปกติ ตรวจพบก้อนมะเร็ง เล็กลง เหลือ 3 เซนติเมตร จึงปรึกษาแพทย์ เพื่อผ่าตัดก้อนมะเร็งออก หายเป็นปกติ
นพ.ไกรสร กล่าวว่า ในรายที่ตนรู้สึกแปลกใจมากคือ ผู้ป่วยติดเชื้อ HIV (เอดส์) ที่ได้รับเชื้อมาเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ปัจจุบันตรวจไม่พบเชื้อ แต่งงาน มีลูกสองคน โดยลูกและภรรยาไม่ได้รับเชื้อแต่อย่างใด แต่เนื่องจากยังมีคนไข้กลุ่มโรคเอดส์เพียงรายเดียวจึงต้องขยายผลเพิ่มขึ้น เพื่อใช้กัญชาทางการแพทย์รักษาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายของผู้ป่วยเอดส์ ยินยอมให้เปิดเผยชื่อ เพื่อให้ความรู้เป็นวิทยาทาน คือ นายนายพากเพียร ตะเคียนศก หรือ เจ๋ง เล่าว่า ตนได้รับเชื้อมาตั้งแต่อายุ 18 ปี (ปัจจุบันอายุ 43) พอรู้ว่าตัวว่าเป็นเอดส์ พยายามใช้ยาเสพติดทุกชนิดรวมถึงกัญชา โดยหวังจะให้ตัวเองตายไป แต่ปรากฏว่า เริ่มกินข้าวได้ นอนหลับ จึงพยายามลดยาเสพติดชนิดอื่น เหลือไว้แต่กัญชา และเริ่มเข้ารับการรักษาตัวอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการใช้ยาต้านไวรัส และกัญชา ปัจจุบันปรุงกัญชาใช้เอง หลังใช้ ไม่มีอาการเบื่ออาหาร นอนหลับได้ดี ร่างกายแข็งแรง แต่งงานมีบุตร 2 คน ไม่ได้รับเชื้อแต่อย่างใด ผลเลือด CD4 ช่วงที่แย่ที่สุดเหลือ 13 และสามารถพุ่งสูงขึ้นได้ถึง 1,763 โดยใช้ยาต้านควบคู่ไปกับน้ำมันกัญชา
นอกจากนี้ นายเจ๋ง ยังได้เปิดช่อง YOUTUBE ใช้ชื่อ “Pakpean Takiensok ” ถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ ให้กับผู้ป่วยเอดส์ ขอให้มีความหวัง ในการใช้ชีวิต และได้ฝากไปถึงรัฐบาลว่า ปัจจุบันวัยรุ่นเริ่มมาติดเชื้อเอดส์กันมาก เนื่องจากย่อหย่อนจากการรณรงค์ใช้ถุงยางอนามัย