สปสช. จัด“ถุงยางอนามัย” 94.5 ล้านชิ้น แจกสิทธิบัตรทองวัยเจริญพันธุ์ สัปดาห์ละ 10 ชิ้น/คน/สัปดาห์ รับได้ผ่านแอปฯ เป๋าตัง เริ่ม 1 ก.พ.นี้ พร้อมตั้งตู้จ่ายถุงยางอัตโนมัติ 3 จุดพื้นที่ “พัทยา” ดีเดย์ 14 ก.พ. วาเลนไทน์ หวังเพิ่มเข้าถึง ป้องกันท้องไม่พร้อม โรคเพศสัมพันธ์
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ถุงยางอนามัยช่วยการป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคซิฟิลิส มะเร็งปากมดลูก หนองใน หนองในเทียม และเอดส์ ที่ผ่านมา สปสช.บรรจุบริการถุงยางอนามัยเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพฯ และในปี 2565 เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการ บอร์ด สปสช.ได้แยกงบจัดซื้อถุงยางอนามัยสำหรับบริการวางแผนครอบครัว ออกจากงบเหมาจ่ายรายหัว โดยให้จัดซื้อภายใต้งบประมาณดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ผ่านองค์การเภสัชกรรม เพื่อกระจายให้แก่หน่วยบริการทั้งประเทศ
ในปี 2566 เบื้องต้นได้เตรียมถุงยางอนามัยจำนวน 94,566,600 ชิ้น และสารหล่อลื่นสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ จะได้รับถุงยางอนามัยครั้งละ 10 ชิ้น/คน/สัปดาห์ ไม่เกิน 52 ครั้ง/คน/ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2566 เป็นต้นไป สามารถเข้ารับได้ที่หน่วยบริการประจำ หน่วยบริการปฐมภูมิ หน่วยบริการที่รับส่งต่อ ร้านยา และคลินิกชุมชนอบอุ่น เป็นต้น ด้วยการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กรณีผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนใช้บัตรประชาชนลงทะเบียนรับบริการได้ที่หน่วยบริการโดยตรง ส่วนหน่วยบริการที่มีศักยภาพด้านเอชไอวี สปสช.ยังคงสนับสนุนการให้บริการถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น และบริการด้านเอชไอวีตามสิทธิประโยชน์เช่นเดิม
“สปสช.ร่วมกับหน่วยบริการ ทั้งภาครัฐและเอกชน ให้บริการผ่านตู้จ่ายถุงยางอนามัยอัตโนมัติ ซึ่งจะนำไปติดตั้งนอกหน่วยบริการหรือในชุมชนสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกไปรับบริการที่หน่วยบริการ เบื้องต้นจะนำร่องติดตั้ง 3 จุดในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ดีเดย์เริ่มวันที่ 14 ก.พ. “วันวาเลนไทน์” ก่อนขยายไปทั่วประเทศต่อไป” นพ.จเด็จ กล่าวและว่า สำหรับขนาดถุงยางอนามัยที่จัดให้บริการภายใต้กองทุนบัตรทองนี้จะมี 4 ขนาดด้วยกัน คือ 49 มม. 52 มม. 54 มม. และ 56 มม. เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการ เลือกขนาดได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพในการป้องกัน