กรมอนามัย ห่วงแนวโน้มค่าฝุ่นจิ๋วพุ่งสูง เช็กค่าฝุ่นก่อนออกกำลังกาย หากถึงระดับสีส้ม-สีแดง ควรงดออกกำลังกายกลางแจ้ง รอให้อากาศดีขึ้นก่อน เตือนอย่าฝืนออกกำลังพร้อมใส่หน้ากาก อาจออกกำลังกายในร่มแทน
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลมีแนวโน้มสูงขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงที่มีฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน ฟุตบอล เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้อัตราการหายใจมากขึ้น ส่งผลให้โอกาสที่ฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมปอด ซึมผ่านกระแสเลือด ไปยังอวัยวะต่างๆ มีมากขึ้น รวมถึงไปขัดขวางการนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ส่งผลให้ออกซิเจนลดน้อยลง ปอดและหัวใจทำงานหนักขึ้น
“ที่สำคัญ ห้ามสวมหน้ากากทุกชนิดขณะออกกำลังกายอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ร่างกายต้องหายใจแรงและเร็วขึ้น ส่งผลให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานหนักมากขึ้นและอาจเป็นอันตรายได้” นพ.สุวรรณชัย กล่าว
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า โดยปกติคนเราจะหายใจเอาอากาสเข้าสู่ร่างกายประมาณ 5 ลิตร/นาที ขณะออกกำลังกายหรือวิ่งจะเพิ่มขึ้นอาจสูงถึง 10-50 ลิตร/นาที มากกว่าปกติถึง 10 เท่า ทำให้หายใจเอาฝุ่นละอองเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ดังนั้น ช่วงนี้ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนตรวจเช็กค่าฝุ่น PM 2.5 อย่างสม่ำเสมอ หากอยู่ในระดับสีส้มและสีแดง ขอให้พิจารณาเลี่ยงหรือลดระยะเวลาการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรืออาจออกกำลังกายในพื้นที่สีเขียว เช่น สวนสาธารณะ และสังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจไม่สะดวก หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ให้รีบไปพบแพทย์ และหากค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง ควรงดการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก เมื่อสถานการณ์คุณภาพอากาศดีขึ้น ค่อยกลับมาออกกำลังกาย
สำหรับกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้ โรคหัวใจ ควรเลือกออกกำลังกายในบ้าน หรือในร่มแทน เช่น เปิดคลิปวีดีโอออกกำลังกายประเภทต่างๆ แล้วทำตามที่บ้าน ได้แก่ แอโรบิก โยคะ หรือ ออกกำลังกายตามสถานที่ต่างๆ หรือที่มีสนามในร่ม เช่น คอร์ทแบดมินตัน วอลเลย์บอล บาสเกตบอล ปิงปอง สระว่ายน้ำในร่ม เป็นต้น