xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" เซ็นจัดสรรงบบัตรทอง 66 แล้ว รพ.ได้เงิน 6 ม.ค. แจงป้องกันโรค "นอกสิทธิ" จัดบริการตามเดิมจนกว่าตีความชัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อนุทิน" เซ็นจัดสรรงบบัตรทองแล้ว รพ.ได้รับงบไม่เกิน 6 ม.ค. 2566 ส่วนบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคนอกสิทธิ หน่วยบริการ สธ.ยังให้บริการที่เคยดูแลตามปกติ ส่วนนอกสังกัด สธ. จะมี สปสช.ประสานให้จัดบริการ ให้ส่งข้อมูลตามระบบเดิม จนกว่าจะมีข้อชัดเจนทางกฎหมาย เพื่อโอนเงินจ่ายชดเชยได้ทันที หลังมีกระแสเข้าใจผิด ให้นอกสิทธิบัตรทองมารับบริการ รพ.สังกัด สธ.ทั้งหมด

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ลงนามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2566 และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ ซึ่งมีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 หลังจากที่มีการชะลอการลงนามประกาศดังกล่าว เนื่องจากมองว่างบบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่ให้สำหรับประชาชนทุกสิทธิอาจไม่ถูกกฎหมาย จนบอร์ด สปสช.มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2565 ให้แยกจัดสรรงบประมาณ โดยจัดสรรงบประมาณทั้งหมดลงไปยังหน่วยบริการ ยกเว้นงบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคจนกว่าจะมีการตีความทางกฎหมายเป็นที่ชัดเจน


ด้าน นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัด สธ. กล่าวว่า หลังมีการลงนามดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยบริการต่างๆ แล้ว สปสช.กำหนดจะจัดสรรให้แล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 6 ม.ค. 2566 เพื่อให้หน่วยบริการได้ใช้ในการจัดบริการแก่ประชาชนในสิทธิบัตรทองต่อไป ส่วนงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคที่ชะลอการจัดสรร เนื่องจากต้องรอการพิจารณาของกฤษฎีกาว่า สามารถนำไปดำเนินการให้ประชาชนนอกสิทธิบัตรทองได้หรือไม่นั้น ซึ่งมีกระแสข่าวว่า สปสช.ให้กลุ่มนอกสิทธิบัตรทองที่ต้องการรับบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคเข้า รพ.ในสังกัด สธ.ก่อน จนกว่ามีความชัดเจนทางกฎหมาย หลังจากตรวจสอบกับ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ที่เข้าประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางการใช้จ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของหน่วยบริการสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระดับประเทศ (คณะกรรมการ 7x7) เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2565 ยืนยันว่า มีความคลาดเคลื่อน อาจทำให้ประชาชนนอกสิทธิบัตรทองเข้าใจผิดและเกิดปัญหาเข้ารับบริการได้

นพ.พงศ์เกษมกล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือ คณะกรรมการ 7X7 ได้หารือร่วมกันถึงแนวทางการจัดบริการ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบระหว่างรอการพิจารณาของกฤษฎีกา โดยมีมติเห็นชอบร่วมกัน ดังนี้ 1.หน่วยบริการในสังกัด สธ.จะจัดบริการให้ประชาชนทุกคนทุกสิทธิ์ที่เคยรับผิดชอบดูแล เพื่อประชาชนได้รับบริการอย่างต่อเนื่อง ส่วนประชาชนนอกสิทธิบัตรทองที่เคยรับบริการกับหน่วยบริการอื่นนอกสังกัด สธ.นั้น สปสช.จะเป็นผู้ประสานให้จัดบริการเช่นเดียวกัน เพื่อไม่ให้มีช่องว่างให้บริการ 2.งบบริการในส่วนของผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในทั้งหมด และงบส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคส่วนที่สามารถดำเนินการได้ ให้จัดสรรให้กับหน่วยบริการ ภายในวันที่ 6 ม.ค. 2566 และ 3.ให้หน่วยบริการทุกภาคส่วนส่งข้อมูลขอรับค่าใช้จ่ายทุกสิทธิตามระบบเดิม เมื่อมีข้อชัดเจนทางกฎหมายในการจัดบริการกลุ่มนอกสิทธิบัตรทองแล้ว สปสช.จะได้โอนเงินจ่ายชดเชยบริการให้ทันที โดย สธ.และ สปสช.จะหารือในการดำเนินงานและติดตามแก้ปัญหาอุปสรรคร่วมกัน เพื่อให้การจัดบริการมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ


ด้าน นพ.จเด็จ กล่าวว่า หลังจากนายอนุทินได้ลงนามในประกาศดังกล่าวแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สปสช.จะเร่งโอนงบประมาณให้กับหน่วยบริการในระบบหลักสุขภาพแห่งชาติทันที เพื่อใช้ในการจัดบริการสาธารณสุขให้กับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง ตามสิทธิประโยชน์ในระบบต่อไป โดยการจัดสรรยังชะลอค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ค่าบริการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เฉพาะส่วนประชาชนนอกสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ วงเงิน 5,146.05 ล้านบาท ตามมติบอร์ด สปสช. จนกว่าการตีความทางกฎหมายจะชัดเจน




กำลังโหลดความคิดเห็น