รพ.สต.บ้านชำป่างาม "ฉะเชิงเทรา" หนุนเครื่องวัดความเค็มให้ อสม.ตรวจอาหารในครัวเรือน ช่วยลดเค็ม ปรับพฤติกรรมการกิน ชะลอผู้ป่วยไตเสื่อมได้ 9 รายในปี 64 เตรียมของบ กปท. ซื้อเครื่องวัดเค็มเพิ่ม
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ภาวะไตเสื่อมมีปัจจัยจากการป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และพฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง ซึ่ง สปสช. มีงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) ช่วยให้ท้องถิ่นทำโครงการชะลอไตในพื้นที่เพื่อส่งเสริมป้องกัน และชะลอภาวะไตเสื่อมได้ ก็จะประหยัดงบประมาณ ใช้งบน้อยกว่าการรักษา ซึ่งอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาทต่อปี แต่ส่งเสริมป้องกันโรคใช้งบ 147-150 บาทต่อปีต่อหัวประชากร สำหรับ กปท. ท่ากระดาน รพ.สต.บ้านชำป่างาม และ รพ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมสุขภาพปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดโรค และชะลอความเสื่อมของไตในผู้ป่วยเบาหวานความดันโลหิตสูง
นายสมศักดิ์ รักษาทรัพย์ ผอ.รพ.สต.บ้านชำป่างาม กล่าวว่า โรคไตมีสาเหตุมาจากการกินเค็มเป็นหลัก ซึ่งไม่ได้มาจากเกลืออย่างเดียว แต่รวมไปถึงน้ำปลา ผงชูรส ผงปรุงรส ฯลฯ ประชาชนอาจจะไม่ทราบว่าอาหารที่กินไปนั้นมีรสเค็มขนาดไหน ทำให้การลงเยี่ยมบ้านในแต่ละครั้งจะมีเครื่องมือตรวจอาหารในครัวเรือนว่าค่าความเค็มนั้นอยู่ในระดับปกติ ปานกลาง หรือเสี่ยง และก็จะมีการปรับเปลี่ยนผ่านการแนะนำการเลือกบริโภคอาหาร สำหรับโครงการชะลอไตเสื่อม เริ่มจากคัดกรองผู้ป่วยโรคความดันและเบาหวาน พบว่าผลตรวจค่าไตเริ่มมากขึ้น จึงใช้งบ กปท.ทำโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเข้าไปให้ความรู้และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่ ปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยโรคไต 83 ราย จากการทำโครงการพบว่า มี 9 รายที่ค่าไตอยู่ในเกณฑ์ดีไม่มีภาวะแทรกซ้อนและรุนแรง เป็นที่น่าพอใจว่ามีการชะลอดีขึ้น
"อนาคตจะของบ กปท. ซื้อเครื่องวัดค่าความเค็มให้แก่ อสม.หมอคนแรก เพื่อติดตัวเอาไว้สำหรับตรวจเยี่ยมบ้าน โดยในช่วงแรกจะเป็นไปเยี่ยมแบบไม่ได้นัดหมาย เพื่อให้รู้ข้อมูลตามจริง ซึ่งจะทำสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าประชาชนมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดีขึ้นอาจจะเว้นระยะห่างเป็น 2 สัปดาห์ครั้ง" นายสมศักดิ์กล่าว
