ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเป็นองค์ประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2566
วานนี้ (30 พ.ย. 65) เวลา 16.10 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปยังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2566 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานโครงการฯ ในปี 2565 และให้ทุกภาคส่วนรับทราบนโยบาย และแผนการดำเนินงานโครงการฯ ปี 2566 เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงาน นำไปสู่การพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพ บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย โดยมีนายแพทย์สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนกรุงเทพมหานคร กราบทูลรายงานผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ในปี 2565 และแผนการดำเนินงานโครงการฯ ปี 2566 ในส่วนของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักอนามัย สำนักการศึกษา และสำนักพัฒนาสังคม ซึ่งปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการอำนวยการและคณะอนุกรรมการบูรณาการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE เข้าร่วมประชุมและเข้ารับพระราชทานเข็มที่ระลึก
สำหรับผลสำเร็จโครงการ TO BE NUMBER ONE ในปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การดำเนินงานมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมต่าง ๆ โดยยึดหลัก Social Distancing และ New Normal ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัดต่าง ๆ เปิดพื้นที่ให้เยาวชนแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ พัฒนาเยาวชนต้นแบบ เก่ง และดี หรือ TO BE NUMBER ONE IDOL จัดค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง พัฒนาและจัดตั้งชมรมและศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ขับเคลื่อนโครงการเชิงนโยบายผ่านจังหวัดและอำเภอ TO BE NUMBER ONE รวมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และโซเชียลมีเดีย
จากการประเมินการเข้าร่วมกิจกรรม พบว่าเยาวชนมากกว่าร้อยละ 90 มีความรู้และทักษะการดำเนินชีวิต มีการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ ในระดับมากถึงมากที่สุด สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้ ไปช่วยกระตุ้นให้เพื่อน ๆ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้อื่น ปัจจุบันมีชมรม TO BE NUMBER ONE ทั่วประเทศ จำนวน 73,552 แห่ง และศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE 10,989 แห่ง โดยปี 2566 โครงการ TO BE NUMBER ONE จะพัฒนามาตรฐานและคุณภาพของการดำเนินงานเครือข่ายระดับจังหวัด อำเภอ และชมรมTO BE NUMBER ONE ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน เรือนจำ ทัณฑสถาน และสำนักงานคุมประพฤติ และในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะมีการขยายเครือข่ายการดำเนินงานสู่เขตTO BE NUMBER ONE ทั้ง 50 เขต