โฆษก สพฐ.ตร.ยัน พฐก.เข้าตรวจที่เหตุเพลิงไหม้คลินิกเสริมความงามย่านปทุมวัน ทันที หลังได้รับการประสาน

MGR Online - โฆษก สพฐ.ตร. ยืนยัน พฐก.เข้าตรวจที่เหตุเพลิงไหม้คลินิกเสริมความงามย่านปทุมวัน ทันที หลังได้รับการประสาน หลังสื่อทีวีตีข่าวไร้เงาเจ้าหน้าที่ พฐ.เข้าตรวจสอบ

วันนี้ (25 พ.ย.) พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (โฆษก สพฐ.ตร.) เปิดเผยกรณีเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 พ.ย. 2565 เกิดเหตุเพลิงไหม้คลินิกเสริมความงาม สาขาสยามสเตเดียม ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. จนเป็นเหตุให้มีร้านค้าถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายหลายคูหา และมีสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่ง รายงานข่าวว่า หลังเกิดเหตุ ไม่มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งขอยืนยันว่า หลังได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ (กสก.พฐก.) และกลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (กคม.พฐก.) ได้ลงพื้นที่อย่างรวดเร็ว และดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ได้แก่

1. การตรวจสภาพความเสียหายภายนอก
2. การตรวจสภาพความเสียหายภายใน
3. การตรวจหาจุดต้นเพลิง
4. การตรวจหาสาเหตุของเพลิงไหม้

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) นายแพทย์ วัชพล ธนมิตรามณี หรือ หมอเมฆ พร้อมด้วย พญ.พิชญานิน สื่อมโนธรรม หรือ หมอแอร์ และ ดร.สุรภัทร์ พิไชยแพทย์ ที่ปรึกษากฎหมายได้แถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่าผลการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุเพลิงไหม้ จากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง จะทราบผลภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างนี้ทางคลินิกได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานมาเสริมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

พล.ต.ต.วาที กล่าวว่า จากข้อมูลของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สถิติเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่กทม. ปี พ.ศ. 2562 เกิดเหตุจำนวน 472 คดี ปี พ.ศ. 2563 จำนวน 430 คดี ปี พ.ศ. 2564 จำนวน 411 คดี ปี พ.ศ. 2565 (มกราคม-พฤศจิกายน) จำนวน 371 คดี พร้อมเน้นย้ำว่าใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่แล้ว หลายคนนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ เพราะมีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน อาจเกิดเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ทุกคนสามารถช่วยกันป้องกันเหตุได้ ก่อนออกจากบ้านควรตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ภายในบ้านให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ สายไฟที่เก่าหรือชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อความปลอดภัย

“ในการป้องกันควรจัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยจากเพลิงไหม้ ด้วยการกำจัดวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง เก็บแยกสารเคมีที่ติดไฟง่ายให้ห่างจากแหล่งความร้อน ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันและระงับเหตุเพลิงไหม้ เพิ่มความระมัดระวังในการใช้ก๊าซหุงต้ม และกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟ เช่น ไม่จุดยากันยุง หรือ ธูปเทียนทิ้งไว้โดยไม่มีคนดูแล ดับไฟก้นบุหรี่ให้สนิททุกครั้งก่อนทิ้ง ไม่จุดไฟเผาขยะบริเวณพงหญ้าแห้งหรือวัสดุติดไฟง่าย รวมไปถึงการติดเหล็กดัดประตูหน้าต่าง ควรติดตั้งแบบที่สามารถ เปิด-ปิด ได้ อย่างน้อยห้องละ 1 บาน หากเกิดเหตุเพลิงไหม้จะสามารถออกจากห้อง ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เมื่อพบเห็นเหตุเพลิงไหม้สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 199” โฆษก สพฐ.ตร.ระบุ