นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ หน่วยเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยความรู้ใหม่การใช้กัญชารักษาโรคที่กำลังมาแรงคือการกินสด โดยนำใบหรือดอกกัญชามาปั่นคั้นรวมกับผักหรือผลไม้อื่นๆ มีสรรพคุณรักษาบรรเทาและป้องกันโรคต่างๆ อย่างได้ผลโดยไม่ทำให้เมา มีตัวอย่างที่โด่งดังมาแล้วในสหรัฐอเมริกา
วันนี้(20 พ.ย.) รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ หน่วยเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยแพร่บทความเรื่อง ประโยชน์ของการกินกัญชาสด มีเนื้อหาสรุปได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่อาจรับรู้การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์จากกัญชาโดยวิธีการสูบหรือกินยาสกัดจากกัญชา แต่ความรู้ใหม่ที่กำลังมาแรงตอนนี้ คือการกินกัญชาสด เพราะได้ประโยชน์หลายอย่าง และไม่ทำให้เมา โดยวิธีการกินกัญชาสดที่ได้ผลดีที่สุด คือการนำใบหรือดอกกัญชามาปั่นหรือคั้นรวมกับผักผลไม้อื่นๆ ซึ่งพบว่ามีสรรพคุณช่วยรักษาบรรเทาและป้องกันโรคต่างๆ อย่างได้ผลดีโดยไม่ทำให้เมา
รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เปิดเผยว่า ผู้นำของโลกเรื่องการกินกัญชาสด คือ นพ.วิลเลียม คอร์ทนีย์ แห่งมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เผยแพร่เรื่องนี้มาตั้งแต่ พ.ศ.2553 หรือ เมื่อ 12 ปี มาแล้ว นพ.วิลเลียมเป็นสมาชิกคนสำคัญของสมาคมที่ศึกษาวิจัยเรื่องกัญชาทางการแพทย์หลายสมาคมและเป็นวิทยากรเดินสายบรรยายเรื่องนี้ให้กับหลายหน่วยงาน
รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ ยกตัวอย่างผลสำเร็จของการกินกัญชาสดที่โด่งดัง กรณีแรกคือ นางคริสเตน เพสคูสกี ภรรยาของ นพ.วิลเลียม คอร์ทนีย์ นั่นเอง นางคริสเตน ป่วยเป็นโรคพุ่มพวงหรือโรคภูมิแพ้ตนเองมาหลายปี กินยามากกว่า 40 เม็ดต่อวัน แต่อาการกลับทรุดลงเรื่อยๆ จนหมอที่รักษาบอกว่า เธอกำลังจะตาย ยาทุกขนานที่มีอยู่ก็ลองใช้มาหมดทุกตัวแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผล เจึงหันมาใช้กัญชา โดยตอนแรกๆ รับประทานกัญชาแห้งบรรจุในแคปซูล ต่อมาเปลี่ยนเป็นน้ำกัญชาปั่นผสมกับผักผลไม้อื่นๆ ทำให้อาการเจ็บป่วยก็ดีวันดีคืนมาตามลำดับ โดยนางเคริสเตนบอกว่า เมื่อดื่มน้ำกัญชาแล้วรู้สึกมีสมาธิมากขึ้นตื่นตัวมากขึ้น หายใจได้ดีขึ้น ไม่มีอาการเสียดท้องหรือโรคกระเพาะ ไม่รู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือปวดกระดูกเชิงกรานและหลังอย่างที่เคยเป็นมาก่อน จนตอนนี้หายป่วยแล้ว และสามารถให้กำเนิดลูกสาว 1 คน ทั้งที่แพทย์ที่ดูแลเธอเคยบอกว่าจะไม่สามารถมีลูกได้อีก
กรณีศึกษารายที่ 2 หนูน้อยแอมเบอร์ ผู้ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ขณะที่มีอายุเพียง 2 ขวบ ได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด ฉายรังสี และให้เคมีบำบัด แต่เนื้องอกยังคงโตขึ้น แพทย์จึงแนะนำให้พ่อแม่ของแอมเบอร์ทำใจยอมรับและพาเธอกลับบ้าน และเมื่อได้รับคำแนะนำจาก นพ.วิลเลียม จึงทำน้ำผลไม้ด้วยใบกัญชาดิบ ปริมาณ 2-3 มิลลิลิตรให้ดื่มทุกวัน หนึ่งเดือนต่อมา พบว่า เนื้องอกมีขนาดลดลง อย่างน่าทึ่ง
กรณีศึกษารายที่ 3 นางสาวเคทีย์ แมช ป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ ซึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ตนเองชนิดหนึ่ง มีอาการหนักจนแทบจะขยับตัวไม่ได้ การเดิน การแต่งตัว หรือแม้แต่การใช้ห้องน้ำนั้นยากและเจ็บปวดมาก มีเพื่อนแนะนำให้เธอใช้น้ำคั้นกัญชา เธอจึงลงมือค้นคว้าเรื่องนี้อย่างจริงจัง จนได้พบงานของ นพ.วิลเลียม คอร์ทนีย์ จึงเริ่มดื่มสมูทตี้น้ำกัญชาสดทุกวัน หลังจากนั้นก็มีอาการดีขึ้นตามลำดับ สามารถลดยาที่กินอยู่ลงได้ และในอีก 10 เดือนต่อมา ก็สามารถหยุดยาได้ทั้งหมด
รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ ระบุว่า ในทางวิทยาศาสตร์ กัญชาสดอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น ได้แก่ กรดอะมิโนที่จำเป็น เส้นใย เอนไซม์ วิตามิน แร่ธาตุ ฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ เทอร์ปีนส์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกรดไฟโตแคนนาบินอยด์ เช่น ทีเอชซีเอ (THCA), ซีบีดีเอ (CBDA), ซีบีจีเอ (CBGA) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ไม่ทำให้เมา แต่มีสรรพคุณทางการแพทย์หลายประการ ได้แก่ฤทธิ์แก้ปวด แก้อาเจียน ปกป้องเซลล์ประสาท ต่อสู้กับการกลายพันธุ์ของเซลล์เนื้องอก และที่น่าสนใจมาก คือ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ได้ดีกว่ากัญชาสกัด 2 ถึง 4 เท่า
ทั้งนี้ มีคำแนะนำในการกินน้ำกัญชาสดปั่น โดยถ้ามีดอกกัญชาผสมอยู่ด้วยให้เริ่มจากปริมาณน้อย 1-3 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการแพ้หรือเมา ใช้เวลา 3 – 7 วัน เมื่อคุ้นเคยกับขนาดยานี้แล้ว ค่อยๆ เพิ่มปริมาณจนได้ขนาด 10 ถึง 15 กรัมต่อวัน ถ้ามีแต่ใบกัญชาสามารถกินได้ประมาณ 30 กรัมต่อวัน ปรับแต่งรสชาติให้น่ากินโดยผสมกับผักผลไม้อื่นๆ เช่น น้ำมะนาว โยเกิร์ต น้ำมันจากเมล็ดกัญชา ผักและผลไม้สด หอม กระเทียม ขมิ้น และเครื่องเทศอื่นๆ โดยใส่น้ำแข็งด้วยเพื่อไม่ให้กัญชาถูกความร้อนขณะที่ปั่นจนกลายเป็นสารเมา ดื่มครั้งละประมาณ 60 – 100 มิลลิลิตร วันละ 5 – 6 ครั้ง
จากข้อมูลของ นพ.คอร์ทนีย์ พบว่า ผลการรักษาบางอย่างจะดีขึ้นหลังจากดื่มครั้งแรกประมาณ 3 วัน แต่ต้องบริโภคน้ำกัญชาดิบปั่นเป็นเวลาประมาณ 4 ถึง 8 สัปดาห์จึงจะสังเกตเห็นคุณสมบัติอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ เนื่องจาก “ไฟโตแคนนาบินอยด์” จะถูกสะสมอย่างช้าๆ ในเนื้อเยื่อไขมัน เช่นเดียวกับวิตามินที่ละลายในไขมัน
รศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ ความเห็นปิดท้ายว่า พืชกัญชารับใช้มนุษยชาติมามากกว่าหนึ่งหมื่นปี ชาวบ้านไทยแต่เดิมก็กินใบสดอ่อนหรือใบเพสลาด เป็นผักกินกับน้ำพริกหรือใส่ข้าวยำ การปลดล็อกกัญชาจากกฎหมายยาเสพติดจึงเป็นเสมือนการเอาหินที่กดทับออก กัญชาพร้อมจะกลับมารับใช้ผู้คนและสังคมอีกครั้ง การกินกัญชาสดปั่นเป็นทางเลือกที่ดีมากอันหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยม เพราะได้ผลดี และไม่มีฤทธิ์เมา ที่สำคัญมาก คือทำให้ชาวบ้านพึ่งตนเองได้ มากขึ้น