ผู้ว่าฯ ชัชชาติ สัญจรเขตยานนาวา ติดตามปัญหาน้ำหนุนและจราจร เตรียมหารือเจ้าของแพลนท์ปูน ร่วมลดฝุ่น PM 2.5
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังจากการประชุมติดตามปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานของสำนักงานเขตยานนาวา ว่า ในช่วงเช้าได้ลงพื้นที่จุดน้ำท่วมบริเวณถนนพระราม 3 ซอย 52 ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นแนวฟันหลออยู่แล้ว ประกอบกับฐานน้ำขึ้นสูงกว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่ง กทม.ได้ดำเนินการกั้นน้ำและดูดลงคลองตาห่วงอยู่ใกล้ๆ ใช้ในการพร่องน้ำเป็นตัวแก้มลิงที่ดันน้ำลงคลองได้ มีบริเวณที่ได้รับผลกระทบประมาณ 800 เมตร ซึ่งจะรีบเสริมกระสอบทราย จริง ๆ แล้วปัญหาคือ พื้นที่ตรงนี้มีคนอยู่ข้างในจำนวนมาก เมื่อเอากระสอบทรายวางจะมีปัญหาเวลารถเข้าออก ให้รองผู้ว่าฯ วิศณุ ดูว่าจะสามารถเทยางมะตอยเป็นเขื่อนกั้นได้หรือไม่ และชาวบ้านด้านในจะยอมหรือไม่
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า น้ำหนุนจะมีอีก 2 ครั้ง และเดือนหน้าจะสูงกว่านี้อีก วันนี้ฐานน้ำ 1.27 เมตร เดือนหน้าจะมี 1.35 เมตร และปลายปีจะมี 1.35 อีกครั้ง ซึ่งใน 76 จุด จุดที่หนักที่สุดคือพระรามที่ 3 ซอย 52 จะมีชุมชนโรงสี ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่ริมน้ำ แต่ว่าน้ำไม่ได้ไหลออกมาที่ถนนใหญ่ สภาพน้ำท่วมไม่ได้เป็นวงกว้าง อยู่ในพื้นที่จำกัด ยังควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งมีช่วงเวลาที่น้ำขึ้นในตอนเช้า และตอนเย็น ระหว่างนี้ต้องเสริมแนวคันกั้นน้ำไว้ก่อน และรอรับมือเดือนหน้าและเดือนถัดไป
ปัญหาหลัก ๆ ของเขตยานนาวา มี 2 เรื่อง คือ การจราจรเนื่องจากมีการก่อสร้างในถนนพระราม 3 คือโครงการท่อร้อยสายไฟลงดินของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงมากำชับดูแลก็ดีไปช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้เริ่มมีปัญหาเรื่องการสั่นสะเทือน ซึ่งตอนนี้ได้มอบรองผู้ว่าฯ วิศณุ กำกับดูแลต่อ หากพบว่ามีปัญหาจะให้หยุดการก่อสร้างก่อน เพื่อปรับปรุงให้ดี ที่ผ่านมาการไฟฟ้านครหลวงได้ให้ความร่วมมือที่ดี แต่ผู้รับเหมาละเลยไป บางทีต้องไปเร่ง
เรื่องที่ 2 เป็นเครื่องมลภาวะ สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เขตยานนาวามีไซต์ก่อสร้าง มีแพลนท์ปูนเยอะ ซึ่งบางครั้งก่อความเดือดร้อนรำคาญ และเป็นเรื่อง PM2.5 ด้วย โดยจะให้สำนักการโยธาเชิญผู้ประกอบการแพลนท์ปูน ทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งมีรายใหญ่ประมาณ 11 ราย มาร่วมหารือและตกลงเรื่องมาตรการให้เข้มงวด เพื่อจะได้บังคับและสั่งการในแต่ละแพลนท์ปูนของตัวเอง ซึ่งจะเป็นเรื่องของการเตรียมรับมือ PM2.5 ด้วย และการจราจรด้วย เพราะว่ารถปูนมีการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ สำนักงานเขตก็จะลงในพื้นที่ด้วย
ในส่วนด้านปัญหาชุมชนแออัด ซึ่งมีบางแห่งอยู่ในพื้นที่ของราชการ เช่น กรมธนารักษ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย ถ้าสามารถทำสัญญาเช่าระยะยาวให้เขามาทำบ้านมั่นคงได้ก็จะมีความมั่นคงในชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะให้สำนักพัฒนาสังคม ดูแลหรือพัฒนาในอนาคตว่าจะหาที่ดินที่สามารถทำบ้านมั่นคงไดัอย่างไร ซึ่งเป็นแผนที่จะต้องดูแลต่อไป เนื่องจากในเมืองอยู่ยากขึ้น เพราะราคาที่ดินแพงขึ้น ซึ่งบ้านมั่นคงเป็นสิ่งที่ดี เพราะประชาชนต้องออมด้วย สามารถผ่อนระยะยาว เช่าระยะยาวได้
ด้านนายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตยานนาวา กล่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาหนัก ๆ คือ ถนนพระรามที่ 3 ได้ติดตามปัญหาโครงการก่อสร้าง และสิ่งแวดล้อม แต่อยากให้ท่านผู้ว่าฯ พิจารณาถึงสิ่งอำนวยความสะดวก การนำคนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า เพราะเขตยานนาวายังไม่มีรถไฟฟ้า รวมทั้งถนนในเลน BRT ที่ตัวหนอนมีปัญหาเอนเอียง ซึ่งหากรถเหยียบอาจทำให้พลิกคว่ำได้
จากนั้น ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เป็นประธานร่วมในพิธียกเสาเอก โครงการบ้านมั่นคงของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเย็นอากาศ 2 ณ ชุมชนเย็นอากาศ 2 ถนนพระรามที่ 3 ซอย 77 แยก 2 โดยมี นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) และนายอาทร ยงกิตติธรากุล ผู้แทนกรมธนารักษ์ เป็นประธานร่วมในพิธี
ปัจจุบันชุมชนเย็นอากาศ 2 มีผู้อยู่อาศัยทั้งสิ้น 364 หลังคาเรือน จำนวนประชากรประมาณ 1,200 คน โดยในวันที่ 4 ส.ค. 64 ได้เกิดเหตุไฟไหม้ชุมชนเย็นอากาศ 2 มีบ้านที่เสียหายจากเพลิงไหม้ 33 หลัง จำนวน 46 ครัวเรือน สำหรับแนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยคือรื้อสร้างใหม่บนที่ดินธนารักษ์โดยเริ่มจากผู้ได้รับผลกระทบจากเพลิงไหม้ 13 ครัวเรือน ปลูกสร้างบ้านในรูปแบบบ้านแถว 2 ชั้น ขนาด 4.00 x 6.00 เมตร
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า ทางกทม.ขอยินดีกับพวกเราทุกคน ขอให้ร่วมมือกันสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง ปลอดจากยาเสพติด สร้างเศรษฐกิจให้ดี แล้วกทม.ก็จะเดินไปพร้อมกับพวกเรา จะช่วยดูแลการศึกษา สาธารณสุข ความปลอดภัยต่าง ๆ ขอให้เราร่วมกันดูแล สร้างชุมชนเข้มแข็งและน่าอยู่ไปด้วยกัน
ต่อมาได้ตรวจเยี่ยมชุมชนเชื้อเพลิงพัฒนา 2 ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างบ้านมั่นคงเสร็จเรียบร้อยแล้วในเฟส 1 และอยู่ระหว่างการก่อสร้างเฟส 2 พร้อมติดตามปัญหาน้ำท่วมขังภายในชุมชน และพักรับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงเรียนวัดดอกไม้ โดยรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ และฝ่ายโยธา เขตยานนาวา จำนวน 5 คน
ในช่วงบ่ายตรวจติดตามงานก่อสร้างศูนย์เยาวชนวัดดอกไม้ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ โดยให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กำชับผู้รับเหมาเร่งรัดการก่อสร้าง จากนั้นลงพื้นที่ตรวจจุดอ่อนน้ำท่วมชุมชนโรงสี ถนนพระราม 3 ซอย 64 มีพื้นที่รวมประมาณ 10 ไร่ เป็นที่ดินของเอกชน มีจำนวนบ้านเรือน 278 หลังคาเรือน ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง เนื่องจากพื้นที่ด้านตะวันออกติดแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อถึงฤดูน้ำมากหรือฝนตกหนักจะมีน้ำท่วมขัง และบ้านเรือนบางส่วนที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา รุกล้ำที่ของกรมเจ้าท่า ซึ่งบริเวณนี้ไม่มีเขื่อนกั้นน้ำ โดยผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ลงพื้นที่รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นพร้อมพิจารณาหาแนวทางแก้ไขเพื่อบรรเทาปัญหาให้กับประชาชนต่อไป
สำหรับกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร ในวันนี้มี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตยานนาวา นายสุเมธ อมรศรีวรากุล ผู้อำนวยการเขตยานนาวา พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตยานนาวา สถานีตำรวจนครบาลท้องที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม