xs
xsm
sm
md
lg

กทม. จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติติดตามเรื่องเร่งด่วนเพื่อเป็นศูนย์กลางบูรณาการข้อมูล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (10 ต.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 22/2565 ณ ห้องประชุมชั้น 19 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

กทม. จะดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อดูเรื่องเร่งด่วนหลัก ๆ 6 เรื่อง คือ เรื่องฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งตอนนี้ได้ออกมาตรการมาค่อนข้างเยอะ แบ่งเป็นระดับ 4 ระดับ ระดับ 1 ค่าฝุ่นไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. ระดับ 2 ค่าฝุ่นระหว่าง 37.6-50 มคก./ลบ.ม. ระดับ 3 ค่าฝุ่นระหว่าง 51-75 มคก./ลบ.ม. และระดับ 4 ค่าฝุ่นมากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ซึ่งเป็นแผนที่สอดคล้องกันแผนชาติ และได้เริ่มดำเนินการแล้ว เช่น เริ่มจากหาต้นตอฝุ่น ใช้ Traffy Foudue ในการแจ้งฝุ่น เตรียมการพยากรณ์ล่วงหน้า เตรียมระบบตรวจวัดให้มากขึ้นครบ 1,000 จุด ตรวจโรงงาน 1,222 แห่ง เริ่มตรวจรถควันดำ ควบคุมการเผาโดยลงพื้นที่ที่มีการเผามากในปีที่แล้ว ตรวจแพลนท์ปูน ตรวจรถยนต์ 14 จุดต่อวัน ตรวจรถบรรทุกโดยสาร 2 วัน/สัปดาห์ และสนับสนุน Eco System คือ รถ EV มีจอแสดงผลในโรงเรียน ขณะนี้พิจารณากระบวนการในการดำเนินงานอยู่ จะมีป้ายบอกผลคุณภาพอากาศทุกโรงเรียนใน กทม. โดยจะมีการใช้บิลบอร์ดของ กทม. ในการแจ้งเหตุแล้ว ซึ่งในแต่ละระดับจะมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น สิ่งที่ทำคือ ให้มีศูนย์ปฏิบัติการ เรื่องฝุ่นขึ้นมา เป็นการรวมศูนย์และรายงานความหน้า รวมถึงการซักซ้อมความเข้าใจมาตรการก่อน

ศูนย์ที่ 2 คือ ศูนย์เกี่ยวกับการจราจรและเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งมีศูนย์อยู่แล้ว เพื่อใช้ประโยชน์ของศูนย์ให้เต็มที่ ในการรวมเรื่องปัญหาการจราจรและความปลอดภัย โดยนายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เดือนที่ผ่านมาได้มีการดูเรื่องจุดฝืนการจราจร โดยนำข้อมูล 2 ด้าน คือ 1. ข้อมูลที่เขตรายงานมา และข้อมูลตำรวจจราจรในท้องที่ 2. ข้อมูลความเร็วเฉลี่ยของรถในเส้นทางต่าง ๆ เพื่อดูว่าจุดฝืดมีตรงไหนบ้าง โดยแบ่งออกมาเป็น 4 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 สามารถจัดการได้เลย โดยใช้วินัยจราจร ในการกำกับดูแล ในกลุ่มที่ 2 ที่กำลังวิเคราะห์อยู่ คือเรื่องของการปรับแก้อย่างง่าย เช่น การขีดสีตีเส้น การปักป้ายจราจร โดยพิจารณาเรื่องความคุ้มค่าและงบประมาณ กลุ่มที่ 3 ต้องดำเนินงานร่วมกับจราจร เช่น การจัดระเบียบการจราจร การตั้งจุดกลับรถ โดยใช้ด้านกายภาพเข้ามาผสมด้วย กลุ่มที่ 4 เป็นกรณีที่ต้องใช้โครงการขนาดใหญ่ เช่น ปริมาณการจราจรหนาแน่นอาจจะต้องทำสะพาน สร้างทางเชื่อม หรือขยายถนนเพิ่ม

ศูนย์ที่ 3 คือ ศูนย์ที่จะดูแลเกี่ยวกับเรื่องหาบเร่แผงลอย ซึ่งรองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ได้ดำเนินการมานานแล้ว โดยจะรวมศูนย์และออกมาตรการที่เกี่ยวข้อง ศูนย์ 4 คือ เรื่องยาเสพติด ซึ่ง กทม. มีกระบวนการอยู่แล้ว ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นขึ้นเพื่อให้ตอบสนองต่อเรื่องกรณีเหตุการณ์ที่หนองบัวลำภู เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง กทม.ได้เฝ้าระวังตลอด เพราะมีศูนย์ที่ดูแลรักษาและบำบัดผู้ติดยาเสพติด แต่ทำตรงนี้เพื่อเป็นศูนย์กลางและบูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งเขตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศูนย์ที่ 5 คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและความโปร่งใส ซึ่งมีศูนย์อยู่ที่ ก.ก. อยู่แล้ว ซึ่งจะนำมาผลักดันในเรื่องของความโปร่งใสของ กทม. ให้เข้มข้นขึ้น ศูนย์นี้จะเป็นตัวผลักดันเชิงยุทธศาสตร์ โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทำให้เห็นว่าเราให้ความสำคัญในการผลักดันจากนี้เป็นต้นไป และ ศูนย์ 6 คือ ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่มีอยู่แล้ว

“ที่เรามีศูนย์บูรณาการ ไม่ใช่ว่าตั้งหน่วยงานใหม่ แต่เป็นตัวที่จะช่วยบูรณาการ ช่วยประมวลผล และสรุปข้อมูลตามระยะเวลา เช่น ศูนย์การจราจรสรุปปัญหาทุกเช้า ศูนย์ยาเสพติดรายงานทุกอาทิตย์ เพื่อช่วยให้การบริหารงานมีการบูรณาการมากขึ้น โดยมี รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ เป็นผู้ดูแลและผลักดัน” ผู้ว่าฯ ชัชชาติกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น