ปลัด สธ.คนใหม่บริจาคดวงตาและอวัยวะ ก่อนปฏิบัติราชการวันแรก พร้อมกำชับผู้บริหาร สธ.ส่วนภูมิภาคและบุคลากรร่วมกันบริจาค ย้ำบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะเป็นนโยบายสำคัญที่จะขับเคลื่อนต่อเนื่องหลังหยุดชะงักช่วงโควิด
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) คนใหม่ จะเริ่มการประชุมมอบนโยบายการดำเนินงาน สธ. ปีงบประมาณ 2565 ได้รับมอบบัตรแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะและดวงตา จากสภากาชาดไทย โดย นพ.โอภาสกล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ปฏิบัติงานราชการ ถือเป็นโอกาสดีที่ นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง สธ. และประธานคณะกรรมการจัดหาและบริการดวงตา สภากาชาดไทย กรรมการอำนวยการการบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ผู้ผลักดันการปลูกถ่ายดวงตาและอวัยวะ ซึ่งตนมีโอกาสทำบุญก่อนทำงานในการบริจาคดวงตาและอวัยวะ จึงขอเชิญชวนผู้บริหารส่วนภูมิภาค ท่านใดยังไม่ไแสดงความจำนง หากอยากร่วมกันทำบุญ การโยกย้ายเป็นโอกาสอันดีก็ขอเชิญชวน รวมถึงบุคลากรด้วย ส่วนการปลูกถ่ายอวัยวะเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวง ขอให้เป็นนโยบายแรกว่า แผนเดิมที่มีแล้วขอให้เพิ่มความเข้มข้น อาจจะชะงักช่วงโควิด แต่ช่วงปีงบประมาณ 2566 จะเร่งรัดการติดตามดำเนินงานในเรื่องนี้ด้วย
นพ.โสภณ กล่าวว่า การบริจาคดวงตาและอวัยวะถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ ขอบคุณเป็นการสื่อสารให้ประชาชนและในองค์กรรับทราบนโยบายและความสำคัญของการบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ ขอให้การดำเนินงานในตำแหน่งปลัด สธ. 3 ปีจากนี้มีแต่ความราบรื่น
นพ.วิศิษฎ์ ฐิตวัฒน์ ผอ.ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย กล่าวว่า สถานการณ์การรับบริจาคอวัยวะ เพื่อเป็นอวัยวะทดแทนแก่ผู้ที่แสดงความจำนงต้องการขอรับการบริจาคอวัยวะ ลดลงอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทั้งในส่วนของผู้บริจาค ทางโรงพยาบาลต้องมีการตรวจสภาพร่างกาย ก่อนจะมีการผ่าตัดนำอวัยวะออกมาเพื่อมาใช้ประโยชน์แก่ผู้แสดงความจำนงขอรับบริจาค เช่นเดียวกัน คนรับบริจาคเองก็ไม่กล้าที่จะเดินทางมารพ. และไม่แน่ใจว่า อวัยวะที่ได้รับมานั้นไม่ได้มาจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ทำให้บางคนจำต้องปฏิเสธอวัยวะที่ได้รับอย่างน่าเสียดาย อีกทั้งตัวสถานพยาบาลเองก็ประสบปัญหาต้องกันเตียงส่วนหนึ่งไว้ไปใช้กับสถานการณ์โควิด โดยช่องทางการรับบริจาคอวัยวะ ลดลง ก่อนโควิด ปี 2562 จาก 300 คน เหลือแค่ 200 คน ซึ่ง 1 ร่างของผู้เสียชีวิต สามารถนำอวัยวะ ไปใช้ประโยชน์ได้ 3 ส่วน สำหรับสถานการณ์การบริจาคดวงตาก็ลดลง 40% ในช่วงโควิด
