xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ยันหลัง 1 ต.ค.ยังฉีดวัคซีนโควิดฟรี พบ 2 ปีช่วยป้องกันตาย 4.9 แสนคน ห่วงสูงอายุ 1.9 ล้านยังไม่รับวัคซีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.ยัน 1 ต.ค.นี้ ยังเปิดฉีด "วัคซีนโควิด" ฟรี รับบริการได้ทั้งใน กทม. และ 76 จังหวัด ตั้งแต่ รพ.ศูนย์ถึง รพ.สต. พบฉีดเข็มกระตุ้นยังน้อย "สูงอายุ" 1.9 ล้านคนยังไม่ฉีดวัคซีน ย้ำไม่ปลอดภัย หากไม่รับเข็มกระตุ้น เผยช่วยลดตาย 41 เท่า 2 ปีช่วยคนไทยเซฟชีวิตรวม 4.9 แสนคน ป้องกันป่วยหนักนับล้านคน

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขตสุขภาพที่ 6 พร้อมด้วย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และ พญ.ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผอ.สำนักอนามัย กทม. แถลงข่าวการบริหารจัดการวัคซีน เมื่อโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

นพ.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด 19 อยู่ในระดับที่ค่อนข้างปลอดภัย เมื่อเทียบกับช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดย 2 สัปดาห์นี้พบว่า ผู้ป่วยปอดอักเสบลดลงจาก 650 ราย เหลือ 480 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจลดจาก 331 ราย เหลือ 263 ราย ผู้เสียชีวิตเฉลี่ย 7 วัน จาก 17 ราย ลดเหลือ 12 ราย วันนี้พบเสียชีวิต 9 รายหรือต่ำกว่าหลักสิบ ขณะที่ผู้ป่วยรายวัน รักษาหาย และระหว่างการรักษามีแนวโน้มดีขึ้นทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้เสียชีวิตในสัปดาห์ที่ผ่านมา 72 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 10 ราย พบว่าเป็นผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นถึง 47 ราย อายุ 60-69 ปี พบ 13 ราย เกือบทุกคนมีโรคประจำตัว นอกจากนี้ ยังพบว่า 51% ไม่ได้รับวัคซีน แม้จะรับวัคซีนมา 2 เข็มแต่เกิน 3 เดือนก็พบเสียชีวิต 29%

"ย้ำว่าผู้สูงอายุไม่ปลอดภัย หากไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ดังนั้น เมื่อรับวัคซีน 2 เข็มเกิน 3 เดือนให้มารับเข็มสาม และรับเข็มสามเกิน 3 เดือนให้มารับเข็มสี่ จะช่วยป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ ซึ่งช่วยลดการเสียชีวิตในผู้สูงอายุลง 41 เท่าเมื่อเทียบคนไม่ได้รับวัคซีน ทั้งนี้ จากการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. - ปัจจุบัน รวม 143 ล้านโดส เป็นเข็มแรก 82% เข็มสอง 77% และเข็มกระตุ้นรวม 46% จากการประมาณการณ์โดยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ พบว่า ปี 2564 ป้องกันผู้เสียชีวิตจากโควิด 382,600 ราย และปี 2565 ป้องกันเสียชีวิต 107,400 ราย รวมกัน 4.9 แสนราย ยังป้องกันการป่วยหนักนับล้านคน ทำให้ประหยัดค่ารักษาจำนวนมาก" นพ.โสภณกล่าว

นพ.โสภณกล่าวว่า ประเทศไทยป้องกันเสียชีวิตจำนวนมากด้วยนโยบายรัฐที่เน้นฉีดวัคซีนแบบมีประสิทธิภาพ คือ บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มเสี่ยง 608 ให้ได้รับวัคซีนก่อน และเร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่ระบาดรุนแรง เพื่อให้คนไม่ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกัน และยังใช้มาตรการอื่นร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สวมหน้ากากอนามัย เราสวมเกือบ 100% มียารักษาที่มีประสิทธิภาพ จะเห็นว่า เมื่อเทียบกับอังกฤษและฝรั่งเศสที่ประชากรใกล้เคียงกันเกือบ 70 ล้านคน มีการรับวัคซีนครอบคลุมใกล้เคียงกัน คือ 75-78% แต่อัตราการเสียชีวิตของไทยน้อยกว่า อยู่ที่ 467 คนต่อล้านคน อังกฤษอยู่ที่ 2,765 คนต่อล้านคน และฝรั่งเศส 2,364 คนต่อล้านคน

ขณะที่การวิเคราะห์ของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า ช่วงการระบาดของโอมิครอน BA.4/BA.5 ใน พ.ค. - ก.ค. 2565 การฉีดวัคซีน 2 เข็มยังได้ประโยชน์ ป้องกันการป่วยหนัก 60% ป้องกันเสียชีวิต 72% แต่จะดีกว่าคือเข็มกระตุ้นป้องกันป่วยหนักเพิ่มขึ้นเป็น 83% ป้องกันการเสียชีวิต 93% หากฉีดเกิน 4 เดือนแล้วต้องรับเข็ม 4 จะช่วยป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต 100% ดังนั้น ครอบครัวที่มีกลุ่มเสี่ยง 608 ถ้ายังไม่ได้รับวัคซีนหรือยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้นต้องพามารับ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ยังมีผู้สูงอายุอีก 1.9 ล้านคนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

"ช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญวันที่ 1 ต.ค.ที่มีการปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มาตรการภาพรวมสถานที่สาธารณะ พื้นที่ปกติจะไม่ได้เข้มงวดเท่าเดิม ดังนั้น คนไม่ได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับเข็มกระตุ้นต้องมารับ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งเป้าหมายของเราจากนี้คือ ประชาชนทุกคนบนแผ่นดินไทยเข้าถึงวัคซีนโดยสะดวกใน รพ. ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ และ รพ.สต.มีวัคซีนให้บริการต่อเนื่อง เน้นกลุ่มเสี่ยงรับเข็มกระตุ้น เพื่อลดความรุนแรงและเสียชีวิต และหากปีหน้ามีวัคซีนโควิดรุ่นใหม่ก็พร้อมจัดหาให้เพียงพอ ส่วนวัคซีนเด็ก 6 เดือนถึงต่ำกว่า 5 ขวบ มีไฟเซอร์จะมาถึงใน 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้" นพ.โสภณกล่าว


นพ.ณรงค์กล่าวว่า การรับเข็มกระตุ้นยังต่ำกว่า 40% มีเพียงเขตสุขภาพที่ 13 กทม.ที่เกิน 40% ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป สถานพยาบาลต่างๆ ในภูมิภาค 76 จังหวัดมีความพร้อม ประชาชนสามารถไปรับบริการวัคซีนโควิดจาก รพ.ภาครัฐได้ทั้งหมด ไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้ง รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป รพ.ชุมชน หรือ รพ.สต.มีการเตรียมและกระจายวัคซีนโควิดไปทุกพื้นที่อย่างเพียงพอ มีทุกแพลตฟอร์ม ทั้งเชื้อตาย ไวรัลเวกเตอร์ mRNA และโปรตีนซับยูนิต กำหนดจุดรับบริการตามบริบท เช่น แบบวอล์กอิน ลงทะเบียนนัดล่วงหน้า จัดหน่วยฉีดเคลื่อนที่สำหรับผู้ป่วยติดเตียง จุดฉีดที่สถานประกอบการ ระบบสถานศึกษา หรือกรณีระบาดเป็นกลุ่มก้อนเพื่อป้องกันการระบาด

สำหรับการรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป LAAB กลุ่มผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การรับสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการฉีดได้ เช่น ผู้ป่วยไตวายที่รับการฟอกไต ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะทีได้รับยากดภูมิ ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบหรือแพ้ภูมิตนเองที่ได้รับรับยากดภูมิ รวมถึงผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำกลุ่มอื่นๆ ส่วนการรับวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมให้บริการ ซึ่งจะมีการฉีด 3 เข็ม ในช่วงสัปดาห์ที่ 0 , 4 และ 12 โดยสามารถรับพร้อมวัคซีนชนิดอื่นได้ หากเด็กมีประวัติติดเชื้อให้เว้นระยะห่างไปก่อน 3 เดือน ทั้งนี้ ย้ำว่าวัคซีนช่วยลดการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง 608 ได้ ทั้ง 76 จังหวัดมีความพร้อมในการจัดบริการ ต้องขอความร่วมมือมาสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ให้การเปลี่ยนผ่านโรคโควิด 19 จากโรคติดต่ออันตรายมาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังอย่างปลอดภัย


ด้าน พญ.ป่านฤดี กล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม.ให้บริการวัคซีนและดำเนินงานตามแนวทางที่ สธ.กำหนด ต้องขอบคุณที่สนับสนุนวัคซีนและการฉีดวัคซีน ทำให้ประชาชนเข้ารับบริการได้จำนวนมาก โดนเฉพาะศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อที่ประกาศปิดวันนี้ ทำให้ภาพรวม กทม.ฉีดวัคซีนสะสม 27.8 ล้านโดส ฉีดวัคซีนเข็มสองเกิน 100% และเข็มกระตุ้นเกิน 70% ยังมีคนสนใจเข้ารับเข็มสามและเข็มสี่อย่างต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป กทม.กำหนดเป้าหมายเข็ม 3 ที่ 70% ปัจจุบันฉีดได้ 69.85% ส่วนกลุ่ม 608 ได้สูงถึง 68.83% สำหรับวันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป กทม.ยังให้บริการวัคซีนตามความสมัครใจ โดยกลุ่ม 608 จะให้รับวัคซีนเข็มสามเกิน 70% โดยเปิดบริการนัดหมายและวอล์กอิน เช่น ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่ง 8.00-12.00 น. รพ.สังกัด กทม. ศูนย์ฉีดวัคซีนกีฬาเวสน์ 2 ไทย-ญี่ปุ่นดินแดง เปิดทุกวัน 8.00-16.00 น. หากระบาดเป็นกลุ่มก้อนประสานศูนย์บริการสาธารณสุขหรือสำนักงานเขต ดูแลให้วัคซีนเชิงรุกในพื้นที่ ส่วนเรื่องผลข้างเคียงจากวัคซีนให้ติดต่อตามสิทธิสุขภาพ กรณีข้อมูลในหมอพร้อมไม่ถูกต้องเปิดสายด่วน 1555 ประสานแก้ไขข้อมูลได้


กำลังโหลดความคิดเห็น