สสส.ดัน "เด็กเอาตัวรอด" บนรถตู้ บรรจุหลักสูตรในห้องเรียน จับมือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก-อปท. อบรมครู-พนักงานขับรถรับ-ส่งดูแล-ไม่ประมาทป้องกันเด็กติดรถ-ลดการสูญเสีย
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รักษาการ ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า อุบัติเหตุและเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถตู้รับส่งนักเรียน จนเป็นเหตุทำให้มีนักเรียนเสียชีวิตเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จากสถิติของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค พบว่า ตั้งแต่ปี 2557-2563 มีเด็กที่ถูกลืมและทิ้งให้อยู่ในรถถึง 129 ครั้ง เสียชีวิต 6 ราย อยู่ในช่วงอายุ 2- 6 ปี และยังเกิดขึ้นให้เห็นจนปัจจุบัน สสส. ตระหนักถึงความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน จึงได้เข้าไปหนุนเสริมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ภายใต้เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ โดยมีมาตรการป้องกันเหตุการณ์ อาทิ การจัดฝึกอบรมให้ครูประจำรถรับส่ง การสร้างความรู้ความเข้าใจให้นักเรียนผ่านสื่อการเรียนรู้ การเข้าใจถึงสถานการณ์ และการจำลองเหตุการณ์จริงหากติดอยู่ในรถ
“การตระหนักและความไม่ประมาทของครูที่ดูแลเด็ก ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะสามารถป้องกันเหตุ ลืมเด็กไว้ในรถได้ แต่การสร้างการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติให้กับเด็กๆ ให้รู้จักการเอาตัวรอดจากการติดอยู่ในรถ รวมไปถึงการตกน้ำ จมน้ำ การปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ มาตรการเหล่านี้จึงควรจะบรรจุอยู่ในหลักสูตร หรือในแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับเด็กทุกคน เช่นเดียวกับที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ปลูกฝังความรู้เรื่องการเอาตัวรอดตั้งแต่วัยเยาว์ เพื่อลดการสูญเสียและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถขึ้นอีก” ดร.ประกาศิต กล่าว
น.ส.นิชาภา เพลินจิตร นักวิชาการศึกษาชำนาญการ อบต.แคน อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ศพด.อบต.แคน มีครูจำนวน 10 คน ดูแลเด็กวัย 2-5 ปี จำนวน 87 คน ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุมาก่อน แต่ต้องไม่ประมาทและสร้างความรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงให้กับเด็ก ๆ โดยจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เสริมประสบการณ์ชีวิต ภายใต้โครงการป้องกันเด็กติดรถ โดยทีมเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ของอบต. เป็นผู้มาฝึกอบรมให้กับเด็กๆ เริ่มต้นให้เด็กเรียนรู้จากคลิปวิดีโอ และทดลองปฏิบัติจริง โดยจะจำลองสถานการณ์ ให้เด็กเรียนรู้การเอาตัวรอดจากการติดในรถ เช่น การบีบแตร หากไม่มีคนมาช่วยให้ใช้ค้อนทุบกระจก ซึ่งรถ-รับส่งของ ศพด.อบต.แคน จะติดตั้งค้อนสำหรับทุบกระจกไว้ เมื่อเด็กได้ลองฝึกจากสถานการณ์จำลอง เด็กจะเข้าใจและจดจำได้ดี
น.ส.รอมือล๊ะ มะหะมิง ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านดูซงกูจิ อ.กรงปินัง จ.ยะลา กล่าวว่า ดูแล ศพด. แห่งนี้ ยังไม่เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เพราะครูคอยดูแลใส่ใจ ร่วมกับการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ปกครอง โดยเฉพาะครูที่ต้องไม่ประมาท รอบคอบ คอยตรวจสอบอย่างละเอียดทุกครั้ง นอกจากเรื่องการป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถ ศพด.บ้านดูซงกูจิ ยังให้ความสำคัญกับการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน เพราะในชนบท ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะขับรถจักรยานยนต์มาส่งบุตรหลานด้วยตนเอง ฉะนั้น การให้ความรู้เรื่องการจราจร การรณรงค์ให้สวมหมวกนิรภัยให้กับบุตรหลานทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ไม่เพียงแค่สร้างความปลอดภัยแต่ยังเป็นการฝึกวินัยจราจรให้กับเด็ก ๆ อีกด้วย เพื่อลดอุบัติเหตุให้กับเด็กเล็ก และคนในพื้นที่
นางฝาหรีดะฮ์ มุเส็มสะเดา ปลัดเทศบาลตำบลปริก อ.สะเดา จ.สงขลา กล่าวว่า ทางเทศบาลจัดรถตู้บริการรับ-ส่งเด็กจากบ้านมาที่ ศพด. โดยบนรถจะมีครู ไปพร้อมกับคนขับ ช่วยกันดูแลนักเรียนตรวจสอบว่านักเรียนขึ้น-ลง รถครบทุกคน เมื่อมีการประชุมผู้ปกครองนักเรียนจะสร้างความเข้าใจเรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียน เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่าง ศพด. และผู้ปกครอง และสร้างความตระหนักให้กับครูและพนักงานขับรถ ให้รอบคอบ ไม่ประมาท เพราะหากเผอเรอเพียงนิดเดียวอาจจะเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียได้ นอกจากนี้ยังมีช่องทางสื่อสารที่ผู้ปกครองสามารถรายงาน ร้องเรียนการบริการตรงไปที่นายกฯ รองนายกฯ และปลัด เทศบาลได้โดยตรง ซึ่งทำให้สามารถรู้ปัญหาได้เร็วและแก้ไขได้ทันท่วงที
