กรมอนามัย เผย 5-10% ไม่สวมหน้ากากอนามัยที่สาธารณะ เหตุอึดอัด ร้อน ย้ำแม้ “โควิด” ลดลง การ์ดยังไม่ตก หน้ากากช่วยป้องกันติดและแพร่เชื้อ แนะพกหน้ากากสำรองหากเปียกเหงื่อ หรือชื้นฝน ย้ำติดโควิดทั้งบ้าน ยังต้องใส่หน้ากาก เหตุอาจติดสายพันธุ์ใหม่ หรือแลกเปลี่ยนเชื้อในบ้านทำให้อาการรุนแรงขึ้น
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ข้อมูลย้อนหลัง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา การติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจ RT-PCR และ ATK ลดลงเรื่อยๆ เหลืออยู่ประมาณ 14,000-15,000 รายต่อวัน แนวโน้มการเสียชีวิตคงที่ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีว่าจะมีสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ และนำไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการฉีดวัคซีน แต่พบว่ามากกว่า 20% ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว โดยเฉพาะผู้สูงอายุยังไม่ได้ฉีดกว่า 2 ล้านคน
จากการสำรวจช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยมากขึ้นประมาณ 90% แต่พบประชาชน 5-10% ที่ไม่สามารถสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะได้ ด้วยเหตุผลว่าใส่แล้วอึดอัด โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน และจำนวนหนึ่งไม่สวมหน้ากากอนามัยในบ้าน เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยง และคิดว่าติดเชื้อกันแล้วทั้งบ้าน ไม่น่าจะมีการติดเชื้ออีก และมีจำนวนหนึ่งไม่ได้มีการตรวจ ATK เนื่องจากคิดว่าตัวเองไม่ได้มีความเสี่ยงอะไร ทั้งนี้ แม้ว่าอากาศร้อน ใส่หน้ากากแล้วรู้สึกอีดอัด แต่หน้ากากอนามัยยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นในการป้องกันการติดและแพร่เชื้อ หากต้องพบปะผู้อื่นยังต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากอยู่ในพื้นที่โล่งๆ คนเดียว หรืออยู่ห่างจากผู้อื่นก็อาจจะเปิดหน้ากากเพื่อหายใจให้สะดวกขึ้นได้เป็นครั้งคราว ขอแนะนำว่าช่วงหน้าร้อน เหงื่อออกมาก บางพื้นที่มีฝนตก อาจจะทำให้หน้ากากเปียกชื้น ขอให้พกหน้ากากสำรองเผื่อไว้สำหรับเปลี่ยน
ส่วนการสำรวจช่วงหลังสงกรานต์ถึงการปฏิบัติตัวเมื่อมีความเสี่ยง พบว่า 80% มีการสังเกตอาการผิดปกติ 40% งดกินข้าวร่วมกับผู้อื่น 18% work from home และ 4-5% ไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความเสี่ยง ทั้งนี้ ย้ำว่าแม้สถานการณ์ติดเชื้อขาลง แต่ต้องไม่ประมาท ต้องเฝ้าระวังและปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันโรค แนะนำให้ดูแลตัวเองตามหลัก 3 อ. คือ อาหาร เน้นพืชผัก ธัญพืช เนื้อปลา, ออกกำลังกาย มีกิจกรรมทางกายอื่น อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละ 30 นาที และอารมณ์ คือ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง
“ความเชื่อที่ระบุว่าติดเชื้อกันทั้งบ้านแล้วไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากนั้นไม่จริง เพราะมีโอกาสที่จะรับสายพันธุ์อื่นๆ เข้ามาได้ ต่อให้ติดเชื้อทั้งบ้านก็อาจจะมีการแลกเปลี่ยนเชื้อภายในบ้าน ทำให้อาการรุนแรงได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะติดแล้วหรือยังไม่ติด หากมีการรวมตัวขอให้ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและล้างมือบ่อยๆ” นพ.เอกชัย กล่าว