อนามัยโพลชี้ สูงวัย 11.8% ไม่คิดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น เหตุกลัวผลข้างเคียง คิดว่า 1-2 เข็มก็พอ และอยากศึกษาข้อมูลก่อน ย้ำต้องฉีดให้ครบตามเกณฑ์ 3 เข็ม ช่วยป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต พร้อมยัง้องเข้มมาตรการป้องกัน
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โรคโควิด 19 ยังต้องเฝ้าระวังและป้องกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดความเสี่ยงและความรุนแรงของโควิด ซึ่งข้อมูลวันที่ 18 เม.ย. 2565 จากฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวนเป้าหมาย 12,704,543 คน รับวัคซีนเข็มแรก 10,673,379 คน คิดเป็น 84% เข็มที่ 2 จำนวน 10,111,943 คน คิดเป็น 79.6% และเข็มที่ 3 จำนวน 5,010,964 คน คิดเป็น 39.4% ขณะที่ผลการสำรวจอนามัยโพลเรื่องพฤติกรรมการป้องกันโรคและความกังวลต่อการฉีดวัคซีนของกลุ่มผู้สูงอายุ ระหว่างวันที่ 1 - 21 เม.ย. 2565 พบว่า ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้รับวัคซีน และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบแล้ว 88.2% แต่ยังคงมีผู้สูงอายุที่ยังไม่แน่ใจที่จะฉีดวัคซีนหรือคิดว่าจะไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอีก 11.8% สาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุฉีดวัคซีนไม่ครบ หรือยังไม่ได้ฉีดวัคซีน คือ กลัวผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน 37.99% รองลงมา คิดว่าฉีดวัคซีน 1 - 2 เข็มก็เพียงพอแล้ว 19.44% และอยากศึกษาข้อมูลให้แน่ใจก่อนฉีด 10.51%
"ขอให้บุตรหลานพาผู้สูงอายุไปฉีดวัคซีนให้ครบโดส 3 เข็ม เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตหากติดเชื้อ ซึ่งการฉีดวัคซีน 3 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อได้ 34 – 68% ป้องกันเสียชีวิตได้ 98 – 99% และหากฉีด 4 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อได้ 80 – 82% ยังไม่พบผู้เสียชีวิต พร้อมยังต้องทำตามมาตรการป้องกันโควิดสูงสุดต่อเนื่อง ทั้งเว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ และตรวจเชื้อ โดยเฉพาะการสวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับบุคคลอื่นและในครอบครัว หลีกเลี่ยงการกินอาหารร่วมกัน และส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงสม่ำเสมอ โดยกินอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ มีกิจกรรมทางกายสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน หลีกเลี่ยงการรับข่าวสารที่มากเกินไป และพักผ่อนให้เพียงพอ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว