"อัจจริยะ" บุกร้องแพทยสภาจี้ตรวจสอบ "หมอนิติเวช" ทุกสถาบันที่ให้ความเห็นชันสูตร "แตงโม" ส่อผิดจริยธรรม ร้องให้เปิดเอกสารทำคดี พบบาดแผลทยอยเพิ่มขึ้น จาก 11 แผล เป็น 26 แผล อ้างภาพแผลจากต่างประเทศเข้ากันได้กับใบพัดเรือ ทั้งที่ "เดอะซัน" ระบุเป็นแผลจากมีด จ่อร้องดีเอสไอพรุ่งนี้ให้รับเป็นคดีพิเศษ
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมานังแพทยสภา เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกแพทยสภาและเลขาธิการแพทยสภา เรื่องการขอกล่าวโทษแพทย์นิติเวชทุกสถาบันที่ให้ความเห็นและเป็นพยานในคดี น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ที่ให้ความเห็นทางวิชาการที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการนิติเวชเป็นผู้ประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม โดยขอให้เรียกเอกสารรายงานการชันสูตรมาตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นจำนวนแผล เนื่องจากมีจำนวนแผลเพิ่มขึ้นหลังมีการผ่าชันสูตรและแถลงข่าวแต่ละครั้ง โดยครั้งแรกพบ 11 แผล ครั้งที่ 2 พบ 22 แผล และสุดท้ายเป็น 26 แผล
นายอัจฉริยะกล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าแผลค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นได้อย่างไร ซึ่งเป็นบาดแผลก้างปลา และหากอ้างตามคำให้การของแซนด์ว่า แตงโมตกเรือทางกาบซ้ายของเรือ แต่บาดแผลที่เกิดขึ้นที่โคนขาขวาเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบแผล เพราะหมายความต้องคร่อมมอเตอร์เรือ นอกจากนี้ ยังมีการนำภาพบาดแผลจากต่างประเทศ อ้างว่าเข้ากันได้กับบาดแผลของแตงโม มาสรุปว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือ แต่ภาพดังกล่าว หนังสือพิมพ์เดอะซันออกมาระบุแล้วว่า ที่แท้เป็นบาดแผลที่เกิดจากมีด ซึ่งเรื่องแสดงให้เห็นแพทย์นิติเวชที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ มีความผิดทางจริยธรรมวิชาชีพเวชกรรม เพราะได้ให้การกับพนักงานสอบ จึงต้องการให้แพทยสภาตรวจสอบและหาตัวแพทย์นิติเวชคนดังกล่าว เพราะมาจาก 4 สถาบัน นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานใหม่ที่ยังไม่เปิดเผย คือ การที่แตงโมกำทรายไว้ในมือ อาจสะท้อนเชื่อมโยง แตงโมต้องการสื่อถึงคดี เจ้าหน้าที่ไม่มีการตรวจสอบทรายที่พบว่า ตรงกับในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ หรือ ตรงกับทรายที่จุดอื่น หรืออาจสื่อถึงใครในคดี
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ยังติดใจกรณีที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล้านำข้อมูลอันเป็นเท็จมาแหกตาประชาชน ทั้งเรื่องแซนด์นั่งท้ายเรือ การเจอวัตถุพยานเส้นผมของแตงโมในครั้งที่ 4 ทั้งที่ตรวจมาหลายครั้ง และทำไมต้องเจอแค่เส้นผมของแตงโมคนเดียว ทั้งที่คนนั่งในเรือมีถึง 6 คน ทั้งนี้ ตนเตรียมเข้าพบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) วันที่ 29 เม.ย. เวลา 13.00 น. เพื่อร้องขอให้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เพราะส่อไปในทางฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากสังคมเกิดข้อกังขาในการทำคดี อีกทั้งตนทำคดีแซนด์ แต่ตำรวจ สภ.นนทบุรี กลับไม่ออกเลขคดี เพราะเป็นเรื่องสำคัญมาก มีความเชื่อมโยงพลิกคดีแตงโม ขณะนี้ตนมีพยานมากกว่า 7 ปาก แต่แซนด์กลับบ่ายเบี่ยงทำให้ไม่สามารถสอบพยานได้ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามการสืบสวนสอบสวน ผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมาตรา 184 กรณีเอื้อประโยชน์ช่วยผู้ต้องหาพ้นผิดและรับโทษน้อยลง และไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน เพราะใช้สิทธิโดยสุจริต
