วันนี้ (26 เม.ย.) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมคณะฯ ร่วมแถลงข่าวการสรุปสำนวนการสอบสวนคดี “น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์”หรือ “แตงโม”เสียชีวิต ณ อาคารอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรภาค 1 ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ โดยมีการเปิดคลิปข้อเท็จจริงบางส่วน และเผยไทม์ไลน์การเสียชีวิต พร้อมเผยว่าแตงโมเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ ส่วนแผลเข้ากันได้กับใบพัดเรือ พร้อมสั่งฟ้องผู้ต้องหา 6 ราย ในข้อหาหลัก ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
โดย “พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ”รองผบช.ภ.1 เผยว่า วันนี้เป็นการแถลงสรุปสำนวนการสอบสวน และนำสำนวนสอบสวนฟ้องผู้ต้องหาต่อพนักงานอัยการต่อไป วันนี้มี 3 ส่วนที่จะนำเสนอ ส่วนแรกคือการแถลงรายละเอียดในคดีพอสังเขปโดย “พล.ต.ต.ไพศาลวงศ์ วัชรมงคล”ผบก.ภ.จ.นนทบุรี หนึ่งในคณะทำงาน ส่วนที่สองรายละเอียดในคดี ในรูปลักษณะคลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นข้อมูลข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งในคดี ซึ่งเรามีความจำเป็นที่ต้องนำเสนอ เพื่อจะได้ให้พี่น้องประชาชนได้มีความเข้าใจในลักษณะของคดี และขอให้เชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจภูธรภาค 1 ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม วันนี้ไม่ได้เป็นการปิดคดี แค่เป็นการสรุปสำนวนการสอบสวนเบื้องต้น สำนวนจะต้องไปต่อในชั้นอัยการ ในชั้นศาล ส่วนที่สามคือตอบข้อซักถามกรณีที่มีเหตุข้อสงสัยเพิ่มเติม
“พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล” ผบก.ภ.จ.นนทบุรีแถลงว่าคดีที่คุณแตงโม เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 22.34 น. สืบเนื่องจากแตงโมและเพื่อนรวม 6 คน นัดหมายมาลงเรือสปีดโบ๊ตที่อู่จอดเรือจ.นนทบุรี เพื่อล่องแม่น้ำเจ้าพระยาชมวิว และไปรับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในเขตจ.ปทุมธานี หลังจากรับประทานอาหารเสร็จได้นั่งเรือชมวิว และไปถ่ายรูปบริเวณสะพานพระราม 8 ขณะที่เดินทางกลับอู่จอดเรือ เมื่อมาถึงบริเวณใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 แตงโมได้ตกจากเรือลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา และจมหายไป
ต่อมาเวลาประมาณ 23.42 น. ของวันเดียวกัน “พ.ต.ท.อุเทน หงษ์ทอง”พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงตกจากเรือลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อให้การช่วยเหลือในทันที โดยมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยระดมกำลังร่วมกันค้นหา ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่หน่วยงานทหาร เจ้าหน้าที่กู้ภัย นักประดาน้ำหลายฝ่าย รวมถึงคนในวงการบันเทิงด้วย ซึ่งพยายามค้นหากันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่พบแตงโม
จนกระทั่งวันที่ 26 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 13.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พบร่างแตงโมเสียชีวิตลอยน้ำอยู่ห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ประมาณ 235 เมตร จึงได้ร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ หลังจากนั้นได้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้ตามกฎหมายต่อไป
คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และเพื่อความยุติธรรมโปร่งใส รอบคอบในการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจ.นนทบุรี และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อมาคลี่คลายคดีนี้ โดยมี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ. 1 ควบคุมการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ด้วยตนเอง
จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ได้มีการสอบสวนปากคำผู้กล่าวหาจำนวน 4 ปาก สอบสวนปากคำผู้ต้องหา 6 ปาก สอบสวนปากคำพยานรวม 124 ปาก แบ่งเป็นพยานบุคคล 108 ปาก พยานผู้เชี่ยวชาญ 16 ปาก เก็บวัตถุพยานที่เป็นพยานสำคัญทางคดีจำนวน 88 ชิ้น พยานเอกสารที่เป็นผลการตรวจต่างๆ 47 ฉบับ คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดจำนวน 200 คลิป สำนวนนี้มีเอกสารรวมทั้งสิ้น 2,249 แผ่น จากพยานหลักฐานทางคดี นำไปสู่การดำเนินคดี กับผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ดังนี้
ผู้ต้องหาที่1 “นายปอ ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์” ดำเนินคดีในความผิดฐาน 1. กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองความถูกต้องตามกฎหมาย 3. ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงแม่น้ำอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขินตกตะกอน หรือสกปรก 4. แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย 5. ไม่ติดชื่อเรือเป็นภาษาไทย และอักษรฝรั่งที่หัวเรือ 6. ใช้เรือที่มีใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้ว ซึ่ง 2 ฐานความผิดหลังนี้ได้ทำการเปรียบเทียบปรับแล้ว
ผู้ต้องหาที่ 2 “นายโรเบิร์ต ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์” ดำเนินคดีในความผิดฐาน 1. กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่มีประกาศนียบัตรรับรองความถูกต้องตามกฎหมาย 3. ใช้เรือที่มีใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้ว 4. ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงแม่น้ำอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขินตกตะกอนหรือสกปรก
ผู้ต้องหาที่ 3 “นายแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์”ดำเนินคดีในความผิด ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้ต้องหาที่ 4 “นายจ๊อบ นิทัศน์ กีรติสุทธิสาทร”ดำเนินคดีในความผิดฐาน 1. เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด 2. ทิ้งสิ่งของปฏิกูลลงแม่น้ำอันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน อันจะเป็นเหตุให้เกิดการตื้นเขินตกตะกอนหรือสกปรก
ผู้ต้องหาที่ 5 “นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์” หรือ “กระติก”ดำเนินคดีในความผิดฐาน 1. เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหายทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด 2. แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย
ผู้ต้องหาที่ 6 “นายภีม หรือ เอ็ม ธรรมธีรศรี” ดำเนินคดีในความผิดฐาน 1. เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลงทำให้เสียหายทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำผิด 2. เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย
ในทางคดีคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 รายทุกข้อหา
จากนั้น “พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม” ผบก.สส.ภ.1 ได้แถลงว่าทางทีมสืบสวนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่าง เพื่อที่จะมาชั่งน้ำหนักในคดีในภาพรวม ทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม ลักษณะทางกายภาพของที่เกิดเหตุ กล้อง CCTV ความเร็วเรือระบบ GPS ต่างๆ รวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ โดยทางทีมสืบสวนได้จัดทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับคดีนี้เท่าที่จะเปิดเผยแก่สาธารณชนได้ มีความยาวประมาณ 25 นาที แบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ 1.พฤติการณ์ในการเกิดเหตุ 2.ไทม์ไลน์เหตุที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ 3.หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ 4.สภาพบาดแผลที่เกิดขึ้น (เปิดคลิปวิดีโอ)
ทั้งนี้ ได้มีการเปิดให้สื่อมวลชนได้ซักถามถึงข้อสงสัยในคดี โดยมีการตั้งคำถามว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับการแถลงสำนวนในครั้งนี้ ที่อาจจะสู้ความคิดเห็นของประชาชนไม่ได้ ทาง “พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร” ผบช.ภ.1 จึงได้ตอบว่า “ในการแถลงข่าววันนี้ คือจะทำอย่างไรให้ข้อสงสัยหลายๆ ข้อที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 2 เดือนเศษ คณะสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เราทำงานตามพยานหลักฐานและกฎหมายที่กำหนด จากการแถลงวันนี้ทางคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเรามีความเชื่อมั่น
มั่นใจว่าจากพยานหลักฐานที่เรารวบรวมมา ไม่ว่าจะเป็นผู้กล่าวหา พยานบุคคล คลิปวิดีโอ วัตถุพยาน และผลการตรวจพยานหลักฐาน และหลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมไว้ ตอนนี้เรามีความมั่นใจว่าเรามีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนตามข้อกล่าวที่ได้แจ้งไป โดยข้อหาหลักคือกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขอเน้นย้ำว่าเราดำเนินคดีในข้อหาหลักนี้ บางท่านสงสัยว่าเป็นอุบัติเหตุไหม ตามที่หลายคนเข้าใจว่าอุบัติเหตุจากที่คุณแตงโมพลาดตกน้ำเอง ยืนยันว่าไม่ใช่ เรามีพยานหลักฐานเชื่อมั่น และสั่งฟ้องว่ามีคนกระทำประมาทจนเป็นเหตุให้คุณแตงโมถึงแก่ความตาย”
พร้อมเผยว่าประเด็นเรื่องการไปปัสสาวะท้ายเรือจะจริงหรือไม่นั้น ไม่มีใครทราบ เพราะตนเองก็ไม่ได้เห็น คนอื่นไม่มีใครเห็นนอกจากแซน ส่วนเรื่องบาดแผลที่ขาตามที่พิสูจน์หลักฐานได้คือน่าจะเกิดจากใบพัดเรือ แต่ในส่วนที่ว่าใบหน้าฟกช้ำ มีฟันหัก ทางผลชันสูตรไม่มีในลักษณะนั้น ซึ่งในส่วนคลิปที่มีประชาชนออกความคิดเห็นว่าเป็นการฆาตรกรรมหรือเปล่านั้น ตามไทม์ไลน์ปรากฎค่อนข้างชัดเจนว่าแต่ละคนบนเรือทำอะไรบ้าง ในส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการฆาตรกรรมหรือทำร้ายร่างกาย เป็นเรื่องที่มีการจัดทำอะไรบางอย่าง ซึ่งหลังเกิดเหตุได้มีการมาปะติดปะต่อภาพ เราได้นำรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อประกอบกันเป็นภาพรวม บอกไม่มีการต่อสู้กันบนเรือ พร้อมเผยว่าเตรียมดำเนินคดีกับผู้ที่ปล่อยข่าวสร้างความสับสน ตอนนี้อยู่ในกระบวนการดำเนินการแล้ว
บอกสาเหตุที่ผู้ต้องหา 5 คนบนเรือให้การเท็จในตอนแรกนั้น เพราะทุกคนบนเรือเมากันหมด พอแตงโมตกน้ำไปร่วม 15 นาทีได้มีการโทรหาบุคคลกว่า 66 คน และมีคนแนะว่าเมาแบบนี้อย่าเพิ่งไปพบตำรวจ เดี๋ยวจะโดนโทษหนักติดคุกหมด ให้เลื่อนออกไปก่อน ก็เลยทำให้ล่าช้ามาเรื่อยๆ พอต้องไปพบคนนั้นคนนี้ก็พูดคำให้การไม่เหมือนกัน อย่างเช่นการดื่มสุราให้น้อย ก็พูดให้มันเหมือนกัน ก็เกิดความยุ่งยากมา จนต่อมาภายหลังฝ่ายสืบสวนสอบสวนแคะไปเรื่อยๆ จนทราบข้อเท็จจริงออกมา จนแจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหากล่าวออกมาตามที่ได้แจ้งไปแล้ว
จากนั้นทีมคณะตำรวจก็ลุกจากเก้าอี้แถลงข่าวเพื่อเดืนทางไปที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีต่อ โดยที่ไม่ได้ตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนทั้งหมด รวมถึงทาง “คุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน”คุณแม่ของแตงโมก็เผยในช่วงท้ายว่า ตนเองก็มีข้อสงสัยอยู่เหมือนกัน แต่ถามไม่ทัน เพราะทางตำรวจมีเวลาสั้นมาก