MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงการออกเอกสารสิทธิทับที่อุทยานแห่งชาติ 6 แปลง สร้างความเสียหายแก่รัฐกว่า 3,500 ล้านบาท
วันนี้ (27 เม.ย.) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย นายศุภชัย คำคุ้ม ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาค 8 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เข้าพบ นายสุพจน์ ภู่รัตนโอภา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 และ พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว ผู้แทน กร.อมน.ภาค 4 ณ สำนักงานอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยได้ประชุมหารือและร่วมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐเพื่อเอกสารสิทธิในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และพื้นที่เขตป่าอ่าวนาง และป่าหางนาคบางส่วน
สืบเนื่องจาก คณะพนักงานสืบสวน ตามเรื่องสืบสวนที่ 54/2565 ของศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 8 กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวนพบข้อเท็จจริงว่าพื้นที่ซึ่งได้มีการบุกรุกดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง และป่าหางนาค ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ และพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งได้มีการออกเอกสารสิทธิในบริเวณที่ดินของรัฐดังกล่าว จำนวน 6 แปลง ได้แก่ 1.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 751 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 23 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่
2.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 777 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 79 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ 3.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 791 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 104 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ 4.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 799 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 96 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่
5.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 800 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 94 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ 6.หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1340 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งออกจากหลักฐานเดิมคือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 44 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ และ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 94 ได้ออกสืบเนื่องจากแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) เลขที่ 94 หมู่ที่ 4 ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) ได้ออกเอกสารสิทธิในช่วงปี พ.ศ.2526 – 2528 มีแต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 1340 ซึ่งได้ออกเมื่อปี พ.ศ.2539
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในวันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น พบว่าการออกเอกสารสิทธิ์มีการทับพื้นที่ของอุทยานฯ และพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งจากการประเมินมูลค่าความเสียหายต่อรัฐแล้ว การบุกรุกพื้นที่ดังกล่าวนั้น ได้มีการซื้อขายในราคาไร่ละ 25,000,000 บาท ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว มีเนื้อที่จำนวน 125 ไร่ ที่ดินในบริเวณดังกล่าว จึงมีมูลค่ากว่า 3,500,000,000 บาท โดยต่อจากนี้ จะมีคำสั่งให้ศูนย์ปฏิบัติการแผนที่และภูมิสารสนเทศ กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำอากาศยานไร้คนขับ มาบินสำรวจแผนที่บริเวณอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราทั้งหมด เพื่อสำรวจ และอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ พื้นที่การครอบครองเอกสารสิทธิ์ว่าถูกต้องหรือไม่
พร้อมทั้ง ประสานเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน มาทำการรังวัดพื้นที่ โดยจะมีการบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมที่ดิน เพื่อทวงคืนทรัพยากรธรรมชาติให้กลับมาเป็นสมบัติของรัฐต่อไป