xs
xsm
sm
md
lg

จ่อชง ศบค.เคาะศุกร์นี้ ปรับพื้นที่สี-เข้าประเทศตรวจแค่ ATK หรือยกเลิกตรวจไปเลย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สธ.เตรียมชง ศบค.ปรับพื้นที่สีใหม่ พร้อมยื่น 2 ข้อเสนอ ปรับตรวจ RT-PCR คนเข้าประเทศ เหลือแค่ ATK หรือไม่ตรวจเลย เชื่อไม่มีผลให้การติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนยอดป่วยหนักจะเพิ่มช่วงต้น พ.ค. ใส่ท่อช่วยหายใจอาจถึงพันกว่าคน แต่ไม่ถึงเส้นสีแดงสูงสุด

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างดี ทำให้การติดเชื้ออยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้ โดยหลายพื้นที่จัดกิจกรรมภายใต้มาตรการ COVID Free Setting ป้องกันตัวเองสูงสุด และลูกหลานพาผู้ใหญ่ในบ้านไปรับวัคซีน ทั้งนี้ แม้พ้นสงกรานต์ไปแล้วยังต้องตระหนักและฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มเสี่ยง 608 ให้ได้ตามเป้าหมาย 80% ส่วนการเสนอมาตรการผ่อนคลายต่อ ศบค.วันที่ 22 เม.ย.นั้น ตนเชื่อมั่นและพร้อมให้การสนับสนุนทีมแพทย์ คณะกรรมการวิชาการ คณะทำงานที่เกาะติดสถานการณ์โควิดที่ประเมินกันรายวัน ในเรื่องการแพทย์มีความสำคัญมาก และสำคัญไม่ต่างกัน ก็คือ เศรษฐกิจ เราต้องบาลานซ์ให้สามารถไปด้วยกันได้

“ด้านการแพทย์ตอนนี้เรามียาทุกตระกูลที่มีผลการศึกษาวิจัยว่ามีประสิทธิภาพ ทั้งแพกซ์โลวิด โมลนูพิราเวียร์ ฟาวิพิราเวียร์ หรือ ฟ้าทะลายโจร ก็มีประสิทธิภาพรักษาผู้ติดเชื้อโควิดกลุ่มอาการน้อย ดังนั้น ด้านเศรษฐกิจก็ต้องเดินหน้าต่อเช่นกัน ซึ่ง สธ.มีคณะทำงานวิชาการ มีการประชุมอีโอซีทุกเช้า หากสถานการณ์ไม่มีอะไรต้องกังวล สธ.พร้อมคลายน็อตทันที และจับตาดูต่ออย่างใกล้ชิด หากมีอะไรที่น่ากังวล ก็จะพิจารณาไขนอตให้แน่นขึ้นเช่นกัน” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันที่ 21 เม.ย. จะประชุม ศปก.ศบค. เพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ ร่วมกันและเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่วันที่ 22 เม.ย. หลักๆ จะเสนอเรื่องการผ่อนคลายการเข้าประเทศในระบบ Test&Go จากเดิมที่ให้ตรวจ RT-PCR 1 ครั้งเมื่อมาถึงประเทศไทย ก็จะหารือว่าจะเสนอให้ปรับเป็นตรวจด้วย ATK หรือไม่ต้องตรวจหาเชื้อ ส่วนรายละเอียดแนวทางดำเนินการจะหารือในที่ประชุม ศปก.ศบค. เพื่อเสนอ ศบค.ตัดสินใจ ขณะเดียวกัน จะมีการเสนอปรับพื้นที่สี อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในประเทศมีจำนวนมากกว่าคนที่เดินทางเข้าประเทศ ดังนั้น การผ่อนคลายเรื่องการเข้าประเทศก็คงไม่มีผลทำให้การติดเชื้อในประเทศเพิ่มมากขึ้นนัก

เมื่อถามถึงกรณีผู้ประกอบการสถานบันเทิง ขอให้พิจารณาเปิดบริการช่วงหลังสงกรานต์ นพ.โอภาส กล่าวว่า การประเมินหลังสงกรานต์ เราต้องดูใน 2 สัปดาห์ ว่า สถานการณ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ ขณะนี้มาตรการในประเทศผ่อนคลายเยอะพอสมควรแล้ว เราต้องประเมิน 2 สัปดาห์นี้ว่าจะกระทบระบบสาธารณสุขหรือไม่ หากไม่มีอะไรก็จะค่อยๆ ผ่อนคลาย ขอดูข้อมูลอีก 1-2 สัปดาห์

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันที่ 19 เม.ย.รายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด 129 ราย ป่วยปอดอักเสบ 2,104 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 940 ราย ถือว่าตัวเลขค่อนข้างสูง แต่ไม่ได้เป็นผลมาจากเทศกาลสงกรานต์ เพราะเพิ่งผ่านมาแค่ 2 วัน โดยช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่าง 12-18 เม.ย. คาดว่า ตัวเลขผู้ป่วยปอดอักเสบ และใส่ท่อช่วยหาย จะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นแบบช้าๆ จากผู้ป่วยสีเหลืองมาเป็นสีแดง และหากอาการรุนแรงมากถึงที่สุดก็เป็นสีดำคือ เสียชีวิต โดยจะเห็นภายใน 7-8 วัน หรือราวต้น พ.ค. จะไม่ได้ขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากระยะฟักเชื้อของโอมิครอนแม้จะสั้นลง แต่ก็ต้องใช้เวลา ตั้งแต่เริ่มป่วย จนป่วยหนักก็ประมาณ 8-10 วัน ซึ่งผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสูงอายุ อย่างไรก็ตาม แม้คาดการณ์ตัวเลขผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงฉากทัศน์เส้นสีแดง น่าจะอยู่ระหว่างเส้นสีเหลืองและแดง คือ รุนแรงระดับปานกลางแต่ไม่มาก ประมาณ 1,000 กว่าคน


กำลังโหลดความคิดเห็น