กรมควบคุมโรค ย้ำ ดื่มแล้วขับ-ขับเร็ว ยังเป็นสาเหตุอุบัติเหตุสูงสุดสงกรานต์นี้ ไม่สวมหมวกทำดับคาที่สูงสุด เตือนขากลับสงกรานต์เข้ม 3 ด่าน 3 ม. ลดอุบัติเหตุ สังเกตตนเอง 7 วันป้องกันแพร่โควิด หากมีอาการตรวจ atk ทันที เน้นทำงานที่บ้าน
เมื่อวันที่ 16 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนกำลังทยอยเดินทางกลับในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด ดังนั้น ขอให้ผู้เดินทางขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน โดยข้อมูลจากศูนย์การเฝ้าระวัง กรมควบคุมโรค สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีที่ผ่านมา ช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย. 64 พบเกิดอุบัติเหตุทางถนนรวม 20,060 ราย บาดเจ็บ 19,709 ราย และเสียชีวิต 351 ราย ซึ่งมีพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 24.14 ยานพาหนะที่เกิดเหตุมากที่สุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 79.11 รองลงมา รถกระบะ ร้อยละ 5.64 ส่วนเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ข้อมูลวันที่ 11-15 เม.ย. 2565 พบอุบัติเหตุรวม 1,478 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บนอนรักษาใน รพ. (Admit) 1,452 ราย ผู้บาดเจ็บแบบผู้ป่วยนอก (OPD) ไม่รวม กทม. 10,534 ราย เสียชีวิต 204 ราย โดยการขับรถเร็วและดื่มแล้วขับยังคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ทั้งนี้ พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย
“ขอให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจรและกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยพักผ่อนให้เพียงพอ หากง่วงให้พัก ขับขี่อย่างปลอดภัย ป้องกันอุบัติเหตุจราจร ด้วยมาตรการ 3 ด่าน 3 ม. คือ ด่านตนเอง หากดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรขับรถ ด่านครอบครัว ช่วยกันตักเตือนและไม่ให้คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ไปขับรถ และด่านชุมชน คัดกรองและประเมินคนเมาที่ขับขี่ยานพาหนะ โดยเน้นที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนถนนสายรอง ส่วน 3ม. ได้แก่ ไม่เมา สวมหมวกนิรภัย และสวมแมสก์ ป้องกันโควิด-19” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางกลับจากสงกรานต์แล้ว ให้สังเกตอาการตนเองและเฝ้าระวัง 7 วัน หากมีอาการสงสัยติดเชื้อ มีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้ทำการตรวจ ATK หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมาก หากต้องพบผู้อื่น ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทำงานที่บ้าน (WFH) ตามความเหมาะสม และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลา (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด โดยเน้นการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่