3 วันอันตรายสงกรานต์ เกิดอุบัติเหตุทางถนน 869 ครั้ง ดับ 113 ราย บาดเจ็บ 853 คน "มอเตอร์ไซค์" เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เหตุดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว ไม่สวมหมวก ทำดับคาที่สูง ศปถ.สั่งเข้มกวดขันเส้นทางสายรองและชุมชน "สมุทรสาคร" ดับสะสมสูงสุด ตายเป็น 0 เหลือ 27 จังหวัด
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ว่า วันที่ 13 เม.ย. 2565 เป็นวันที่ 3 ของช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ เกิดอุบัติเหตุ 331 ครั้ง เสียชีวิต 40 ราย บาดเจ็บ 323 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.51 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 30.21 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.36 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.97 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี และเชียงใหม่ จังหวัดละ 15 ครั้ง เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สมุทรสาคร 5 ราย และบาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี 15 คน จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,903 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 413,877 คัน ดำเนินคดี รวม 79,025 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน ระหว่างวันที่ 11 – 13 เม.ย. 2565 เกิดอุบัติเหตุรวม 869 ครั้ง เสียชีวิต 113 ราย บาดเจ็บ 853 คน โดยขอนแก่น และนครศรีธรรมราช เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด จังหวัด 33 ครั้ง สมุทรสาคร เสียชีวิตสะสมสูงสุด 6 ราย และนครศรีธรรมราช บาดเจ็บสะสมสูงสุด 36 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเหลือ 27 จังหวัด
"ช่วง 3 วันที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด มาจากขับรถเร็ว ไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้มีอัตราการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ ค่อนข้างสูง ส่วนวันนี้เป็นวันที่สองของการหยุดเทศกาลสงกรานต์ ส่วนใหญ่ถึงจุดหมายและท่องเที่ยวในพื้นที่แล้ว ทำให้ถนนสายรองและในชุมชนเกิดอุบัติเหตุสูง จึงเน้นย้ำให้จังหวัดปรับมาตรการ วางแผนจัดตั้งจุดตรวจ บนเส้นทางสายรอง ด่านชุมชน โดยเฉพาะบริเวณสถานที่จัดงานสงกรานต์ตามประเพณีและแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ เน้นดื่มแล้วขับและขับรถเร็วในกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพิเศษ" นายบุญธรรมกล่าว
นายบุญธรรมกล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ประเทศไทยตอนบนอาจมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ซึ่งสภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอฝากเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง และสวมใส่อุปกรณ์นิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารยานพาหนะ รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเดินทางมีความปลอดภัย