ภาพรวม 2 วันเทศกาลสงกรานต์ 65 เกิดอุบัติเหตุ 538 ครั้ง ดับ 73 ราย บาดเจ็บ 530 คน "ขอนแก่น" เกิดอุบัติเหตุสูงสุด โคราช-เมืองเก่า ดับสูงสุด จังหวัดละ 4 ราย เมืองคอนบาดเจ็บสูงสุด สั่งเข้มเส้นทางสายรอง สกัดรถวิ่งเร็ว เน้นรถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ รถตู้
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ 2565 ว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย. เป็นวันที่ 2 ของเทศกาล เกิดอุบัติเหตุ 301 ครั้ง เสียชีวิต 47 ราย บาดเจ็บ 292 คน โดยขอนแก่นเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 14 ครั้ง ขอนแก่นและนครศรีธรรมราชมีผู้บาดเจ็บสูงสุด จังหวัดละ 12 คน และนครราชสีมามีผู้เสียชีวิตสูงสุด 4 ราย เรียกตรวจยานพาหนะ 400,647 คัน ดำเนินคดี 72,886 ราย ผิดฐานไม่มีใบขับขี่สูงสุด 20,731 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 20,136 ราย
สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 2 วัน ระหว่างวันที่ 11 – 12 เม.ย. 2565 เกิดอุบัติเหตุรวม 538 ครั้ง เสียชีวิต 73 ราย บาดเจ็บ 530 คน สาเหตุหลักยังคงเกิดจากการขับรถเร็วและการดื่มแล้วขับ พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย ภาพรวมขอนแก่นเกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด 24 ครั้ง นครราชสีมาและพระนครศรีอยุธยามีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด จังหวัดละ 4 ราย นครศรีธรรมราช มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด 26 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือตายเป็น 0 รวม 34 จังหวัด
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ช่วง 2 วันที่ผ่านมา พบว่า การขับรถเร็วและไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ทำให้ดัชนีความรุนแรงของอุบัติเหตุสูง ส่งผลให้มีอัตราการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุค่อนข้างสูง จึงให้จังหวัดวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา ส่วนวันที่ 13 เม.ย. คาดว่าการจราจรบนถนนสายหลักจะมีปริมาณรถไม่หนาแน่น ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้ความเร็วได้ จึงกำชับจังหวัดกวดขันการใช้ความเร็วเป็นพิเศษ โดยเฉพาะรถกระบะ รถโดยสารสาธารณะ และรถตู้โดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรุนแรง
"วันนี้เป็นวันแรกของวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงจุดหมาย คาดว่าจะมีการใช้เส้นทางถนนสายรอง โดยเฉพาะเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอำเภอ อบต.และหมู่บ้าน จึงประสานจังหวัดใช้กลไกพื้นที่ดำเนินมาตรการทางสังคมดูแลความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบนเส้นทางสายรอง เข้มด่านชุมชน จุดตรวจ และจุดสกัด ดูแลและป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน" นายบุญธรรมกล่าว
