สธ.แนะเด็กมัธยม 12-17 ปี เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนเปิดเทอม พ.ค. เลือกได้ทั้งแบบเต็มโดส และครึ่งโดส ประสิทธิผลเพิ่มภูมิคุ้มกันไม่แตกต่างกัน ส่วนอายุ 5-11 ปี เร่งมาฉีดเข็มสอง พบฉีดได้แค่ 3.4%
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงต่อไปประมาณ พ.ค. 2565 จะมีการเปิดเทอม ซึ่งกลุ่มเด็กมัธยมศึกษา อายุ 12-17 ปี ขณะนี้จะเข้าสู่การฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นหรือเข็มที่ 3 จึงแนะนำให้รับวัคซีนก่อนเปิดเทอม ซึ่งสามารถเลือกรับได้ทั้งแบบโดสปกติ หรือครึ่งโดส ซึ่งมีประสิทธิภาพเพิ่มภูมิคุ้มกันไม่แตกต่างจากโดสปกติ แต่ที่ดีกว่า คือ ผลข้างเคียงที่จะเกิดจากวัคซีนมีน้อยกว่า ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี เราแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเด็กสุขภาพปกติ จะฉีดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะบูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ดำเนินการ ซึ่งจะเน้นครึ่งโดสเป็นหลัก แต่ถ้าต้องการฉีดเต็มโดสก็สามารถเลือกได้ และกลุ่มเด็กป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาใน รพ.ก็ไปรับบริการใน รพ.ที่เด็กเข้ารักษาประจำ สามารถปรึกษาแพทย์ที่รักษา และฉีดได้ตามที่แพทย์พิจารณา
“สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กประถมศึกษาอายุ 5-11 ปี ขณะนี้มีการฉีดเข็มหนึ่งไปแล้ว โดยจะฉีดเข็มสองเว้นระยะห่างประมาณ 8 สัปดาห์ ก็อยู่ในขั้นตอนเร่งฉีด เพื่อรองรับการเปิดเทอมต่อไป” นพ.โอภาส กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มีประมาณ 5.15 ล้านคน ข้อมูลการฉีดวัคซีนวันที่ 11 เม.ย. 2565 พบว่า ฉีดเข็มหนึ่งแล้ว 2.5 ล้านโดส คิดเป็น 48.7% และฉีดเข็มสอง 1.74 แสนโดส คิดเป็น 3.4%