กรมควบคุมโรค เผย มีวัคซีนไฟเซอร์สูตรฝาสีเทา 3 ล้านโดส เก็บได้นานขึ้น 8-10 สัปดาห์ กระจายถึง รพ.สต. ขอลูกหลานพามาฉีดใกล้บ้าน เร่งฉีดให้ได้ตามเป้าหมายอีก 1 ล้านกว่าคน ช่วงสงกรานต์นี้ พร้อมเปิด 3 สาเหตุสูงวัยไม่ยอมฉีด
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงเป้าหมายการฉีดวัคซีนโควิด-19 กลุ่มเสี่ยงช่วงก่อนสงกรานต์ ว่า เป้าหมายที่วางไว้ช่วงสงกรานต์ ประมาณ 3 ล้านคน ฉีดประมาณ 2 ล้านกว่าคน อีก 1 ล้านกว่าคน ก็จะเร่งรัดฉีดช่วงสงกรานต์ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบ พบว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่ได้รับวัคซีน มี 3 ประการ คือ 1. การเดินทางไปรับวัคซีนลำบาก บางคนติดเตียงต้องให้เจ้าหน้าที่ไปฉีดให้ บางคนบ้านอยู่ในตำบลเล็กๆ ต้องไปฉีดอำเภอเดียวกันก็ยังลำบาก และ 2. ความกลัวผลข้างเคียงจากวัคซีน ทั้งที่อาการที่เป็นส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับวัคซีน ก็ยังติดฝังใจเรื่องความกลัว และ 3. ลังเลว่าฉีด 2 เข็มแล้ว ทำไมต้องฉีดกระตุ้นอีก ซึ่งจากข้อมูล 3 เข็ม จะช่วยลดการเสียชีวิตกลุ่ม 608 ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังได้มาก
“กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีนโยบายว่า ช่วงสงกรานต์ที่ลูกหลานกลับภูมิลำเนา ให้ถือโอกาสพาผู้สูงอายุ ญาติผู้ใหญ่ที่บ้านไปรับวัคซีนใกล้บ้านได้ ซึ่ง สธ.กระจายวัคซีน ทั้งของไฟเซอร์ แอสตร้าเซนเนก้า ให้ไปถึงจุดที่ใกล้ที่สุด คือ รพ.สต. ดังนั้น ช่วงกลับบ้านสงกรานต์ให้ไปชักจูงญาติผู้ใหญ่รับวัคซีนใกล้บ้านได้ที่ รพ.สต. เป็นอีกมาตรการหนึ่งที่ฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมและลดการเสียชีวิตในระยะถัดไป ประชาชนที่อยู่ตำบลห่างไกลก็สามารถพาผู้สูงอายุมาฉีดใกล้บ้านได้” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวว่า นอกจากนี้ เรายังมีวัคซีนสูตรใหม่ของไฟเซอร์ ซึ่งรวมแล้วไฟเซอร์ มี 3 แบบ คือ 1. ฝาสีส้ม ฉีดในเด็กอายุ 5-11 ปี 2. ฝาสีม่วง คือ สูตรเดิมฉีดในกลุ่มอายุ 12 ปีขึ้นไป และ 3. ฝาสีเทา ที่ไฟเซอร์ผลิตขึ้นใหม่ และฝรั่งเศสบริจาคให้เรา ข้อดีคือไม่ต้องผสมน้ำเกลือ ทำให้มีความสะดวกที่ รพ.สต. ซึ่งมีบุคลากรจำกัด ถ้าต้องมาผสมวัคซีนให้เจือจางแล้วฉีดก็จะไม่สะดวก และสามารถเก็บได้นานขึ้น ซึ่งของเดิมออกจากอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส มาอยู่ในตู้เย็น 2-8 องศา จะอยู่ได้ 4 สัปดาห์ แต่ของใหม่อยู่ได้นาน 8-10 สัปดาห์ ก็จะเก็บได้นานขึ้น สะดวกและเหมาะสมกับ รพ.สต. โดย 1 ขวดฉีดได้ 6 คน ซึ่งวัคซีนไฟเซอร์ค่อนข้างปลอดภัย ผลข้างเคียงรุนแรงไม่มี การฉีดที่ รพ.สต.ก็มีความปลอดภัย สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้เรามีฝาสีเทาประมาณ 3 ล้านโดส กระจายไป รพ.สต.แล้ว คาดว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้น่าจะถึง ก็จะมีการตรวจสอบว่าไปถึง รพ.สต.เพื่อบริการประชาชนครบถ้วนมากน้อยเพียงใด ภาพรวมจะส่งไปที่จังหวัดแล้วกระจายไปยัง รพ.สต.อีกครั้ง
ถามถึงการฉีดเข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้นจะช่วยลดเส้นคาดการณ์ป่วยหนักและเสียชีวิตอย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า การฉีดเข็มกระตุ้นปัจจัยสำคัญช่วยลดเสียชีวิตกล่ม 608 คาดว่า ฉีดเข็มกระตุ้นเพิ่มขึ้นได้ ผู้ติดเชื้อเสียชีวิตจะลดลง แต่ไม่ใช่ฉีดแล้วภูมิจะขึ้นทันทีก็ต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์กว่า ร่างกายจะกระตุ้นภูมิคุ้มกันขึ้นมา ก็ต้องมีช่วงระยะห่างอีก สถานการณ์ตอนนี้ต้องเข้มมาตรการป้องกันอยู่ คนกลับบ้านไปพบพ่อแม่ ปู่ย่าตายายต้องระวังใส่หน้ากากให้มากที่สุด เมื่อไปทำกิจกรรมนอกบ้านที่ต้องถอดหน้ากาก เวลาเข้าบ้านเจอผู้สูงอายุต้องใส่หน้ากากให้บ่อยที่สุด จะช่วยลดการติดเชื้อได้
ถามต่อว่า ต้องฉีดเข็มกระตุ้นให้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะเห็นแนวโน้มลดลง นพ.โอภาส กล่าวว่า คงไม่มีตัวเลขขนาดนั้น แต่ยิ่งฉีดเยอะก็ยิ่งดี วัควีนเราปลอดภัย มีข้อมูลศึกษาจริงว่าเข็มกระตุ้นลดการเสียชีวิตได้จำนวนมาก